พนักงานฮุนไดสไตรค์ครั้งใหญ่ในรอบ 12 ปี
สหภาพแรงงานของบริษัทฮุนไดมอร์เตอร์ในเกาหลีใต้นัดผละงานประท้วงทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีในวันที่ 26 ก.ย.เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรง ยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงให้กับรายได้และเป้าหมายยอดขายของบริษัทมากยิ่งขึ้น
การนัดผละงานประท้วงเต็มวันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการหยุดงานเป็นบางส่วนตั้งแต่เดือนก.ค.ที่โรงงานประกอบรถยนต์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นฐานการผลิตส่วนใหญ่เกือบ 40% ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายทั่วโลก
การผละงานประท้วงเป็นระยะตั้งแต่เดือนก.ค.นำไปสู่การสูญเสียยอดผลิตรถยนต์ถึง 101,400 คันคิดเป็นมูลค่า 2,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 23 ก.ย.ซึ่งเป็นมูลค่าการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท
นายอิม อุน ยัง นักวิเคราะห์ยานยนต์จากบริษัทซัมซุง เซเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า “ การประท้วงในปีนี้กินเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายได้ 3 ใน 4 ของบริษัทจึงน่าผิดหวัง ”
ฮุนไดซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกร่วมกับบริษัทเกียมอเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังมากที่มีการผละงานประท้วงในระหว่างการผลิต และทางบริษัทจะพูดคุยกับสหภาพแรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขกรณีพิพาทครั้งนี้
สมาชิกสหภาพ 48,000 คนมีแผนจะผละงานประท้วงบางส่วนในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันก็จะมีการพูดคุยกับบริษัทเรื่องค่าแรงประจำปี อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหภาพ
ฮุนไดมอเตอร์ได้รับผลกระทบจากการประท้วงของสหภาพแรงงานทั้งหมด 4 ปีจาก 29 ปีที่ก่อตั้งบริษัทมา อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา บริษัทสามารถผลิตรถยนต์ชดเชยกับผลผลิตที่สูญเสียไปภายในสิ้นปีของแต่ละปี
บริษัทรายงานผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 10 ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และล้มเหลวในการครองส่วนแบ่งการตลาดของรถเอสยูวีที่มีดีมานด์ที่แข็งแกร่งขึ้นทั่วโลก
นายโช ซู ฮง นักวิเคราะห์จาก NH Investment & Securities คาดการณ์ว่าฮุนไดและเกียมอเตอร์จะมียอดขายทั่วโลกลดลง 0.6% ไปอยู่ที่ 7.96 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เดิมคือ 8.13 ล้านคัน
โดยหุ้นของฮุนไดร่วงลง 2% มาอยู่ที่ 125.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่าที่เคยพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในเดือนพ.ค.2555 ถึง 50%.