ปูตินเตรียมพร้อมเลือกตั้งปีหน้า
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ว่า เขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือนมี.ค.ปี 2561 โดยโพลล์ความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งชี้ว่า เขาจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้งอย่างสบายๆ
ทำให้การเลือกตั้งเป็นเวทีที่เขาจะแผ่ขยายความโดดเด่นของอาณาจักรทางการเมืองเข้าสู่ทศวรรษที่ 3
ประธานาธิบดีปูติน วัย 65 ปี รั้งอำนาจสูงสุดของรัสเซียทั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2543 หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะกลายเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่ 4 ในเดือนมี.ค.ปีหน้า ตามกฎหมายแล้ว เขาจะอยู่ในวาระต่อไปอีก 6 ปี จนถึงปี 2567 ซึ่งเขาจะมีอายุ 72 ปีเมื่อครบวาระ
“ ผมจะตั้งตารอการเป็นตัวเลือกผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีของสหพันธรัฐรัสเซีย ” ผู้นำรัสเซียกล่าวกับผู้ฟัง ซึ่งเป็นกลุ่มคนงานในโรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองริมแม่น้ำ Volga
“ ไม่มีที่ใด หรือโอกาสใดที่ดีกว่าการลงสมัครรับเลือกตั้ง ผมแน่ใจว่า ทุกอย่างจะดีสำหรับเรา ” เขากล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินได้รับการยกย่องจากพันธมิตรของเขาว่าเป็น บิดาของชาติ เนื่องจากเขาได้สร้างความภูมิใจให้กับประเทศ และแผ่ขยายอิทธิพลของรัสเซียให้โลกรับรู้จากการเข้าแทรกแซงการปกครองในซีเรียและยูเครน ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวหาเขาว่าเป็นผู้สร้างระบบอำนาจนิยม (ประชาธิปไตยจอมปลอม) และผนวกรวมแคว้นไครเมียของยูเครนเข้ามาอยู่กับรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวและถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศ
ความท้าทายของปูตินไม่ใช่ผู้สมัครคนอื่นๆ เพราะไม่มีใครจะสามารถเทียบรัศมีของเขาได้ แต่งานหนักที่สุดของเขาคือ การขับเคลื่อนการเลือกตั้งที่ดูจะจืดชืดไม่น่าสนใจให้กลายเป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนออกมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการยืนยันถึงความชอบธรรมของเขา
การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีความน่าสนใจว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากปูตินรั้งอำนาจอยู่ครบวาระสุดท้ายแล้ว ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีวี่แววของผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขาอย่างชัดเจน และนักลงทุนจำนวนมากระบุว่า การขาดแผนวางตัวผู้สืบทอด จะกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุด
หากมีการเลือกตั้งใหม่ปีหน้า ประธานาธิบดีปูตินจะเลือกว่าจะให้นาย Dmitry Medvedev เป็นนายกรัฐมนตรี หรือแต่งตั้งคนอื่นเป็น การตัดสินใจนี้จะเป็นเหมือนการวางตัวผู้สืบทอดอำนาจ เนื่องจากว่าหากใครเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น ก็มักจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป.