อดีตผู้บริหารโฟล์กติดคุกในสหรัฐฯ

อดีตผู้บริหารบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โฟล์กสวาเกนถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และถูกปรับเป็นจำนวน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 13.13 ล้านบาท หลังจากยอมรับว่าเขาได้ช่วยให้บริษัทหลบเลี่ยงจากการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอากาศสะอาดของสหรัฐฯ
นายโอลิเวอร์ ชมิดท์ วัย 48 ปี เป็นผู้บริหารคนที่สองของบริษัทที่ถูกตัดสินจำคุกในสหรัฐฯ จากข่าวฉาวเรื่องการโกงค่าไอเสียของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล
โดยบริษัทโฟล์กสวาเกนยอมรับเป็นครั้งแรกในเดือนก.ย.ปี 2558 ว่า บริษัทใช้ซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมายเพื่อโกงผลการทดสอบการปล่อยค่าไอเสียของสหรัฐฯ ซึ่งข่าวฉาวในปีนั้น ทำให้บริษัทมีมูลค่าความเสียหายมากเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 984,600 ล้านบาท
อัยการสหรัฐฯ ระบุว่า โฟล์กสวาเกนติดตั้งซอฟต์แวร์พิเศษในรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล จึงทำให้ผลการทดสอบการปล่อยค่าไอเสียดีกว่าที่เคยทำได้ภายใต้เงื่อนไขการขับขี่ปกติ
ซึ่งที่จริงแล้ว ค่าไอเสียที่ปล่อยออกมาของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลของโฟล์กสวาเกนนั้นสูงกว่าที่กฎหมายสหรัฐฯ กำหนดถึง 30 เท่า
โดยบริษัทขายรถยนต์เกือบ 600,000 คันพร้อมอุปกรณ์พิเศษเพื่อการโกงค่าไอเสียในสหรัฐฯ ในปี 2549 – 2558 และอีกประมาณ 11 ล้านคันทั่วโลก มีการสอบสวนข้อกล่าวหานี้ในประเทศอื่นๆด้วย จนนำไปสู่การจับกุมผู้บริหารหลายคนของบริษัทในเยอรมนี
นายชมิดท์ ซึ่งเป็นประธานสำนักสิ่งแวดล้อมและวิศวกรรมในรัฐมิชิแกน ได้รับทราบถึงกระบวนการโกงในปี 2558
อ้างอิงจากเอกสารหลักฐานของศาล เขายอมรับว่าได้กระทำความผิดจริงโดยมีส่วนในการสมรู้ร่วมคิด และละเมิดกฎหมายสะอาดของสหรัฐฯในเดือนส.ค.
ทนายความของเขาได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาตัดสินลงโทษสถานเบาแก่เขา โดยระบุว่าเขามีบทบาทในกระบวนการโกงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้บริหารอาวุโสรายอื่นของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาฌอน ค็อกซ์ ประจำศาลเขตรัฐมิชิแกนตัดสินโทษสูงสุดให้นายชมิดท์ตามที่อัยการเสนอ แต่ได้มีการลดบางข้อหาลง เนื่องจากเขารับสารภาพเป็นประโยชน์แก่รูปคดี
“ผมตัดสินใจแย่ๆ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป” ชมิดท์กล่าวในศาลเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. อ้างอิงจากการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ทั้งนี้ ชมิดท์เป็นชาวเยอรมัน และเป็น 1 ใน 8 ของอดีตผู้บริหารและผู้บริหารปัจจุบันของโฟล์กสวาเกนที่ถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ จากคดีโกงค่าไอเสียของรถยนต์ดีเซลที่อื้อฉาวไปทั่วโลก.