ออสเตรเลียปิดพรมแดน 2 รัฐครั้งแรกในรอบ 100 ปี
ซิดนีย์ (รอยเตอร์) – ในวันที่ 7 ก.ค. มีการปิดพรมแดนระหว่างสองรัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในออสเตรเลียอย่างไม่มีกำหนดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัศโควิด -19 ในเมืองเมลเบิร์น
มีการประกาศข้อกำหนดนี้ในวันที่ 6 ก.ค. นับเป็นครั้งแรกในรอบร้อยปีที่มีการปิดพรมแดนระหว่างรัฐวิคทอเรียและรัฐนิวเซาธ์เวลส์ โดยครั้งสุดท้ายที่มีการปิดพรมแดนระหว่างสองรัฐนี้คือในปี 2462 ในระหว่างที่มีการระบาดของไข้หวัดสเปน
“ เป็นมาตรการที่ฉลาด เป็นสิ่งที่เหมาะสมในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเราเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมการระบาดของไวรัส ” แดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิคทอเรียกล่าวกับสื่อในเมืองเมลเบิร์น
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้มีแนวโน้มจะส่งผลลบกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของออสเตรเลีย เนื่องจากประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิคทอเรียพุ่งทะยานขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ ทำให้ทางการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมใน 30 เขตชานเมือง และสั่งล็อกดาวน์ 9 อาคารที่อยู่อาศัย
โดยทางรัฐรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 127 รายในชั่วข้ามคืน ทำให้เป็นสถิติใหม่ของจำนวนผู้ติดเชื้อในวันเดียวนับตั้งแต่เกิดการระบาด นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย ทำให้เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบกว่าสองสัปดาห์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาทั่วประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ 106 ราย
ขณะที่แกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์ระบุว่า ไม่มีกำหนดว่าเมื่อไรจึงจะเปิดพรมแดนอีกครั้ง โดย กำลังทหารจะประจำการเพื่อทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการข้ามพรมแดนตั้งแต่เวลา 23.59 น.ก่อนเข้าวันที่ 7 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น
เบเรจิกเลียนระบุว่า ประชาชนจะสามารถขออนุญาตข้ามพรมแดนไปทำงานในแต่ละวัน แต่เสริมว่าอาจมีความล่าช้าในการออกใบอนุญาตออกไปอีกประมาณ 3 วัน
พอล อาร์มสตรอง เจ้าของสถานีบริการน้ำมันในโวดองกา เมืองชายแดนฝั่งรัฐวิคทอเรียระบุว่า ลูกๆของเขาอาศัยอยู่ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ แต่ไปเรียนหนังสือที่ร.ร.ในรัฐวิคทอเรีย
“ผมสงสัยว่าผมต้องขอใบอนุญาตหรือเปล่า” อาร์มสตรองกล่าว ร.ร.ในรัฐวิคทอเรียอยู่ในช่วงวันหยุดปิดเทอมฤดูหนาวในสัปดาห์ที่สอง ขณะที่ร.ร.ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์เริ่มปิดเทอมนานสองสัปดาห์ในวันที่ 6 ก.ค.
มิค ฟุลเลอร์ ผบ.ตร.รัฐนิวเซาธ์เวลส์ระบุว่า กองทัพจะมีการเฝ้าระวังทางอากาศตลอดเวลาและมีการตรวจตราเพื่อบังคับใช้คำสั่งปิดพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพรมแดนอื่นอีกสองแห่งของรัฐวิคทอเรีย ถูกปิดตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. จากมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
ที่ผ่านมา ออสเตรเลียดีกว่าหลายประเทศในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยจนถึงตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อ 8,500 ราย แต่การระบาดในเมลเบิร์นล่าสุดทำให้ต้องมีการเตือนภัยอย่างเข้มงวด
ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่โดยเฉลี่ย 109 รายต่อวัน เมื่อเทียบกับสัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย.ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 9 รายต่อวัน
ชาวเมืองเมลเบิร์นกำลังกังวลว่ามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่มีการประกาศใช้อีกครั้ง จะไม่มีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดในเมือง
“หากไม่มีการล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นอย่างเต็มรูปแบบ ผมไม่มั่นใจมากนักว่าจะควบคุมการระบาดของไวรัสได้ ” แจ็ค เบลล์ ไลฟ์การ์ดซึ่งอาศัยอยู่ย่านเคนซิงตัน ชานเมืองของรัฐวิคทอเรียกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
โดยเคนซิงตันเป็น 1 ใน 30 เมืองในย่านชานเมืองที่มีการประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอีก โดยมี 9 อาคารการเคหะที่ถูกล็อกดาวน์เป็นที่แรกในออสเตรเลีย อยู่ติดกับนอร์ธเมลเบิร์นและเฟลมมิงตัน.