Spotify และ Tencent Music เข้าซื้อหุ้นของอีกฝ่าย
บริการสตรีมมิงเพลงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง ต่างเข้าซื้อหุ้นของกันและกัน
ทั้ง Spotify และบริษัท Tencent Music Entertainment ในจีนกล่าวว่า จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของกันและกัน
ยังไม่มีการเปิดเผยถึงมูลค่าของการซื้อขายในครั้งนี้ หรือขนาดของผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งสองราย แต่ตามรายงานได้ชี้ว่า ทั้งสองบริษัทจะเข้าซื้อหุ้น 10% ของอีกบริษัท
นอกจากนี้ ด้านบริษัท Tencent Holdings เจ้าของ Tencent Music Entertainment ก็จะทำการเข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยของบริษัท Spotify อีกด้วย
บริษัท Spotify เปิดตัวในปี 2551 ปัจจุบันให้บริการสตรีมมิงเพลงให้กับผู้ใช้งานทั้งหมด 140 ล้านรายทั่วโลก โดยมีจำนวนผู้ชำระเงินใช้บริการสำหรับการติดตามแบบพรีเมียม ไร้โฆษณา ทั้งหมด 60 ล้านราย
การซื้อขายในครั้งนี้เปิดโอกาสให้ Spotify ได้เปิดรับตลาดผู้บริโภคเพลงในจีน ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทพร้อมให้บริการใน 61 พื้นที่ แต่ไม่มีให้บริการในประเทศจีน
ผู้คนจำนวนมากการคาดการณ์ว่าทางบริษัทจะทำการขายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปีหน้า
Mark Mulligan นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมดนตรีและผู้อำนวยการจัดการที่สถาบันวิจัย MIDia Research ระบุว่า แม้ว่ารายละเอียดการซื้อขายจะยังไม่เป็นทีชัดเจน แต่การซื้อขายในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ทางนักลงทุนเห็นว่า Spotify นั้นกำลังคิดหนักเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการตีตลาดจีน
เขากล่าวว่า “จีนถือเป็นจุดเชื่อมต่อที่หายไปของ Spotify เนื่องจากความคืบหน้าในการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นการโน้มน้าวให้ทางนักลงทุนเล็งเห็นถึงความเป็นบริษัทสากลระดับโลก”
Tencent Music Entertainment เป็นเจ้าของบริษัทสตรีมมิงเพลงทั้ง QQ Music และ KuGou ซึ่งรวมกันแล้วมีผู้ใช้รายเดือนมากถึง 450 ล้านราย
ทางบริษัท TenCent บริษัทแม่ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักจากแอปพลิเคชัน WeChat และการลงทุนต่าง ๆ รวมถึงเกมออนไลน์อีกด้วย
นาย Mulligan ระบุว่า การร่วมมือกับ TenCent จะช่วยลดความเสี่ยงซึ่งทาง Spotify อาจจะต้องเผชิญหากพยายามจะเข้าตีตลาดเพลงในเมืองจีนตัวคนเดียว
แต่นอกจากนี้การลงทุนในบริษัท TenCent ยังช่วยรองรับ Spotify หากเกิดเหตุที่ทำให้ธุรกิจสตรีมมิงต้องสะดุดอีกด้วย
บริษัท Spotify มุ่งเป้าไปที่การให้บริการด้านสตรีมมิงเพลงเป็นหลัง ซึ่งต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ อย่าง Apple และ Amazon
นาย Mulligan ระบุว่า “นี่ถือเป็นรากฐานสำหรับแผนสำรอง B ในกรณีฉุกเฉิน หากธุรกิจหลักของพวกเขาเริ่มทรุดตัวลง”
Daniel Ek ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Spotify ระบุว่า “ทั้ง Spotify และ Tencent Music Entertainment ต่างมองเห็นโอกาสสำคัญในตลาดการตรีมมิงเพลงระดับโลก สำหรับผู้ใช้บริการทุกราย รวมถึงศิลปิน ตัวเพลง และคู่ค้าทางธุรกิจ”
“การซื้อขายในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้บริษัททั้ง 2 ได้รับประโยชน์จากการเติบโตไปทั่วโลกของบริการสตรีมมิงเพลง”.