อังกฤษเปิดผับ/ร้านอาหาร/โรงแรมเดือนหน้า
ลอนดอน (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักรระบุว่าผับ ร้านอาหารและโรงแรมจะสามารถเปิดให้บริการได้ในอังกฤษต้นเดือนก.ค. เมื่อมีการคลายล็อกการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นการคุมเข้มการระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยนายกฯจอห์นสันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากภาคธุรกิจ โดยเฉพาะด้านโรงแรม และจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ให้เขาคลายล็อกดาวน์ แต่จนถึงตอนนี้ เขายังยืนยันถึงความกังวลว่าจะเกิดการระบาดในระลอกสอง
ในวันที่ 23 มิ.ย. เขาระบุว่าด้วยตัวเลขการติดเชื้อและจากความเชื่อที่ว่าเกิดภัยคุกคามขึ้นเล็กน้อยในตอนนี้ว่ามีการระบาดของโควิด-19 ในระลอกสอง เขาสามารถเปิดธุรกิจและพยายามจะทำให้ชีวิตของอังกฤษกลับสู่วิถีปกติเดิม
ด้วยการคลายกฎการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลจาก 2 เมตรเป็น 1 เมตร และมาตรการบรรเทาอย่างอื่น เช่น การ
สวมหน้ากากอนามัยและการใช้ฉากกั้น นายกฯจอห์นสันระบุว่า ธุรกิจสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ 4 ก.ค.เป็นต้นไป
“ วันนี้ เราสามารถพูดได้ว่า การจำศีลแห่งชาติที่ยาวนานของเราเริ่มจะถึงจุดจบแล้ว ” เขากล่าวในสภา “ โรงแรมของเราจะถูกจำกัดโต๊ะที่ให้บริการ และกำหนดให้มีการสัมผัสติดต่อระหว่างพนักงานและลูกค้าให้น้อยที่สุด”
โดยจอห์นสันระบุว่า จากความเปลี่ยนแปลงจะทำให้สองครัวเรือนสามารถพบปะกันได้ และให้โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนได้ในเดือนก.ย.
ร้านตัดผมเปิดได้ รวมทั้งศาสนสถาน สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนสนุก อย่างไรก็ตาม ยังคงปิดไนท์คลับ ยิมและสระว่ายน้ำอยู่
สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด – 19 มากที่สุดในโลก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.กระทรวงสาธารณสุขรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 15 ราย ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.เป็นต้นมา
โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งสูงสุดในเดือนเม.ย. คือสูงถึง 1,000 รายใน 9 วัน
จอห์นสันต้องเจอกับการล็อบบี้จากภาคโรงแรมและแรงกดดันทางการเมืองในพรรคของเขาเองให้ผ่อนคลายกฎการรักษาระยะห่างจากคนอื่น 2 เมตร โดยหลายธุรกิจระบุว่า อาจต้องปิดกิจการหากไม่มีการผ่อนคลายมาตรการลงมาอยู่ที่ 1 เมตร ซึ่งเป็นระยะห่างน้อยสุดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ
นายกฯ จอห์นสันระบุว่า ไม่สามารถยกเลิกทุกมาตรการคุมเข้มได้ในคราวเดียว และประชาชนจำเป็นต้องระวังตัวเหมือนเดิม เขาเตือนว่าอาจมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก หากมีการติดเชื้อในรอบที่ 2
“อย่างที่เราเห็นในหลายประเทศ ว่าจะมีการติดเชื้อขึ้นมาอีก จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมอีก ” จอห์นสันกล่าว “ และเราจะไม่ลังเลที่จะหยุดและมีการคุมเข้มอีก แม้แต่ในระดับชาติ หากจำเป็นจริงๆ ”