เกาหลีเหนือพร้อมส่งใบปลิวโต้เกาหลีใต้
โซล : เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เกาหลีเหนือระบุว่า มีใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อนับล้านใบที่พร้อมจะส่งไปกับลูกโป่ง โดยเน้นว่า เป็นยุทธศาสตร์วาทกรรมเพื่อโต้ตอบเกาหลีใต้หลังจากเกาหลีเหนือระเบิดตึกประสานงานสองเกาหลีไปก่อนหน้านี้แล้ว
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประณามเกาหลีใต้เรื่องใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกส่งจากผู้แปรพักตร์ในเกาหลีใต้ข้ามพรมแดน โดยส่วนใหญ่ใช้ลูกโป่งลอยเข้าไป หรือใช้ขวดลอยไปตามแม่น้ำ
เกาหลีเหนือระบุว่า จะไม่มีการเจรจากับเกาหลีใต้อีก และในสัปดาห์ที่แล้ว ได้ระเบิดอาคารประสานงานสองเกาหลีในเมืองแกซอง ซึ่งเป็นเมืองติดพรมแดนของสองประเทศ ขณะที่ยังขู่ว่าจะส่งกำลังทหารไปประจำการใกล้กับเขตปลอดทหารอีกด้วย
นักวิเคราะห์ระบุว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์ยั่วยุโดยพุ่งเป้าไปที่จุดยืนในการเจรจาของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ที่พยายามให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
ที่ทำให้เกาหลีเหนือไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดคือใบปลิวที่ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีคิมจองอึน
โดยที่ผ่านมา ทั้งสองเกาหลีมักส่งใบปลิวข้ามพรมแดนกันเป็นประจำ แต่ตกลงที่จะหยุดกิจกรรมโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งการใช้ลำโพงยักษ์กระจายเสียงตลอดแนวชายแดน ที่หมู่บ้านพันมุนจอมซึ่งประธานาธิบดีคิมและประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ลงนามในการประชุมซัมมิตครั้งแรกในปี 2561
ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีหยุดชะงักหลังจากการประชุมซัมมิตในกรุงฮานอยของเวียดนามระหว่างประธานาธิบดีคิมและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปีที่แล้วที่ล้มเหลว เนื่องจากเกาหลีเหนือต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์
โดยในตอนแรก ประธานาธิบดีมุนเป็นผู้ประสานความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ แต่เกาหลีเหนือกล่าวโทษเขาที่ไม่พยายามโน้มน้าวสหรัฐฯให้คลายการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเกาหลีเหนือกำหนดกรอบกระบวนการด้วยการออกคำเตือนมากขึ้นจากหน่วยงานทางการหลายแห่ง ทั้งหน่วยงานรัฐบาลและกองทัพ ก่อนจะบังคับใช้ใช้แต่ละมาตรการ
คำประกาศของเกาหลีเหนือล่าสุดมีขึ้นหลังจากคิมยุนชอล ซึ่งเป็นคนสำคัญในการประสานความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ขอลาออกจากตำแหน่งรมว.กระทรวงรวมชาติเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้น โดยแสดงความหวังว่าการจากไปของเขา “จะเป็นโอกาสเพื่อชะลอความตึงเครียดได้บ้าง”
เกาหลีใต้ยังได้ประกาศว่าจะห้ามการส่งใบปลิวไปเกาหลีเหนืออีก (ก่อให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้นในประเด็นเสรีภาพในการแสดงออกของประเทศประชาธิปไตย) และได้นำคำร้องเรียนของตำรวจนายหนึ่งไปยื่นฟ้องสองกลุ่มผู้แปรพักตร์เกี่ยวกับแคมเปญต่อต้านเกาหลีเหนือ
ในทางเทคนิคแล้ว ทั้งสองประเทศเกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงครามหลังจากสงครามเกาหลียุติลงด้วยการพักรบในปี 2496 โดยไม่ได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพเพิ่มเติมแต่อย่างใด.