อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนชะลอตัว

ยอดผู้เข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ในจีนที่ลดลงถึง 15% ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา กำลังส่งผลกระทบด้านลบแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนเพิ่มขึ้น
โดยการชะลอตัวในปีนี้แตกต่างจากปีที่แล้วที่มีการขยายตัวมากกว่า 50%
ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมิ.ย.ลดลงถึง 10% ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี อ้างอิงจากข้อมูลของ EntGroup โดยราคาเฉลี่ยของตั๋วภาพยนตร์ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในช่วงเวลามากกว่า 5 ปี
จำนวนผู้ชมภาพยนตร์ นับเป็นตัวชี้วัดอีกประเภทหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของผู้บริโภคและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในจีน แนวโน้มที่ตกต่ำลงชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวจีนอาจต้องการประหยัดเงินและตัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง ที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นออกไป
ว่านต๋าซีเนมาไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน รายงานรายได้ในไตรมาส 2 ที่เติบโตขึ้นเพียง 12.8% ซึ่งแตกต่างค่อนข้างมากจากการเติบโตถึง 61.4% ในไตมาสแรก
ทั้งนี้ จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกพยายามที่จะลดการพึ่งพารายได้จากภาคการผลิตและส่งออก โดยหันมาส่งเสริมการบริโภคและภาคส่วนการบริการ
คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีนจะมีรายได้แซงหน้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นายริช เกลฟอนด์ ซีอีโอของ Imax กลุ่มบริษัทภาพยนตร์จอยักษ์ รายงานเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เขาคาดการณ์ว่า จีนจะมีจำนวนจอยักษ์และมีรายได้จากราคาตั๋วที่สูงขึ้นมากกว่าสหรัฐฯในปี 2560 แต่รายได้ที่ลดลงในปีนี้ อาจทำให้การคาดการณ์นี้ต้องล่าช้าออกไป
หลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนชาวจีนเพลิดเพลินในการใช้เงินซื้อหุ้นจำนวนมากในบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์และผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ทางฝั่งตะวันตก
บริษัทต้าเหลียน ว่านต๋า ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเจ้าของทั้งบริษัท Amc Entertainment และ Carmike ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา
โดยในเดือนก.ค.บริษัท Amc ได้ซื้อกิจการ Odeon & UCI Cinema Group ให้อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทต้าเหลียน
บริษัทต้าเหลียน บริหารกิจการโดยมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในจีนคือนายหวัง จินเหลียน โดยเมื่อต้นปีนี้
บริษัทได้เทคโอเวอร์บริษัท Legendary Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ฮอตฮิตระดับโลก เช่น Jurassic World, the Dark Knight Batman trilogy และ Godzilla.