ยุโรปเริ่มเปิดประเทศ
บรัสเซลส์ (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. บรรดาประเทศในยุโรปเริ่มเปิดพรมแดนหลังจากมีการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนามานาน แต่สเปนยังคงปิดประเทศอยู่ แต่คาดการณ์ว่าปริมาณการเดินทางยังคงห่างไกลจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดมาก
ที่ผ่านมา พื้นที่ซึ่งใช้วีซ่าเชงเก้นคือ 22 ประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นการเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างเสรี โดยไม่มีการควบคุม แต่ส่วนใหญ่ต้องปิดประเทศนาน 3 เดือนเพื่อสกัดโรคระบาดโควิด-19
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Ylva Johansson คณะกรรมาธิการกิจการภายในยุโรป ขอความร่วมมือให้ประเทศสมาชิกเชงเก้นยกเลิกการปิดพรมแดนในวันที่ 15 มิ.ย. เพื่อเป็นการเปิดประเทศรับประเทศอื่นๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่เดือนก.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวในการเปิดพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนในยุโรป ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยภาคส่วนสันทนาการและวัฒนธรรม ซึ่งคิดเป็นเกือบ 10% ของเศรษฐกิจอียู หรืออาจมีขนาดใหญ่กว่านั้นในกลุ่มประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้บางประเทศได้รับผลกระทบหนักหนาที่สุดจากการระบาดของโควิด – 19
จากไอซ์แลนด์ลงไปถึงกรีซ จะมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มสำหรับนักเดินทางในอียูและผู้ที่ถือวีซ่าเชงเก้นในวันที่ 15 มิ.ย. แต่จะไม่กลับไปเหมือนเดิมก่อนการระบาดที่มีการเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างเสรีระหว่างประเทศในยุโรปที่มีประชากรมากถึง 420 ล้านคน
ขณะที่สเปนจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศได้จนกว่าจะถึงวันที่ 21 มิ.ย. ยกเว้นเฉพาะกลุ่มเกาะของสเปน
โดยกรีซจะมีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากสนามบินใน 8 ประเทศอียู ขณะที่สาธารณรัฐเช็กมีระบบไฟจราจร เพื่อเป็นมาตรการคุมเข้มนักเดินทางจากประเทศไฟ ‘สีส้ม’ หรือ ‘สีแดง’ อย่างโปรตุเกสและสวีเดน
เดนมาร์กอนุญาตให้นักเดินทางจากไอซ์แลนด์ เยอรมนี และนอร์เวย์ แต่ยกเว้นสวีเดน เข้าประเทศได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องจองที่พักอย่างน้อย 6 คืน
สหราชอาณาจักรกำหนดให้มีการกักตัว 2 สัปดาห์สำหรับนักเดินทาง ซึ่งหมายความว่า นักเดินทางจากสหราชอาณาจักรจะถูกกักตัวเช่นกันในฝรั่งเศส
ก่อนวิกฤตไวรัส มีนักเดินทางเฉลี่ย 3.5 ล้านคนที่ข้ามพรมแดนภายในอียูทุกวัน จากรายงานของสภายุโรปในปีที่แล้ว โดย 1.7 ล้านคนยังคงต้องเดินทางไปทำงานอย่างต่อเนื่อง บางส่วนในขณะนี้ต้องทำงานที่บ้าน โดยคาดการณ์ว่าจะมีความเข้มงวดด้านสาธารณสุขต่อไป เพื่อคุมเข้มการท่องเที่ยวและธุรกิจ
ที่สนามบินกรุงบรัสเซลส์ในเบลเยียม วันแรกของการเปิดทำการจะทำการบินประมาณ 60 เที่ยวบิน คิดเป็น 10% ของปริมาณเดิมคือ 600 เที่ยวบิน