ญี่ปุ่นปรับตัว New Normal หลังเลิกภาวะฉุกเฉิน
โตเกียว (รอยเตอร์) – หลังจากญี่ปุ่นยุติภาวะฉุกเฉิน ชาวญี่ปุ่นเดินอยู่บนท้องถนนด้วยความรู้สึกปนเปกัน ทั้งผ่อนคลายและกังวลใจ เนื่องจากต้องปรับตัวที่จะใช้ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ’ (New Normal) เพื่ออยู่ร่วมกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปอีกนาน
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะยกเลิกภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 4 จังหวัดที่เหลือ โดยประกาศชัยชนะในการจัดการให้ยอดผู้ติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ทั้งหมดยังคงต่ำอยู่ที่ประมาณ 16,600 ราย
“ ผมอยากออกไปดื่มข้างนอกและไปดูคอนเสิร์ต” ไดสุเกะ โทมินางะ พนักงานออฟฟิศให้สัมภาษณ์สื่อในชิบูยา ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่พลุกพล่านที่สุดในกรุงโตเกียว
ไม่เหมือนกับมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในประเทศอื่น เพราะที่ผ่านมา ญี่ปุ่นไม่ได้บังคับให้ธุรกิจปิด และหลายแห่งเปิดทำการก่อนที่จะยกเลิกมาตรการฉุกเฉินเสียอีก
แต่รัฐบาลยุติภาวะฉุกเฉินอย่างเป็นทางการหลังจาก 7 สัปดาห์ ทำให้ประชาชนกลับไปทำงานได้ หรือออกไปข้างนอกโดยต้องรักผษาระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัย
นาโอโตะ ฟุรุกิ วัย 45 ปี ระบุว่า ในระบบขนส่งสาธารณะที่เขาใช้ในช่วงเช้ามีคนมาใช้บริการมากกว่าปกติ
“ ผมยังกังวลอยู่ อาจมีการระบาดรอบใหม่ ดังนั้น เราจำเป็นต้องระวังตัว”
โรงเรียนมีกำหนดจะเปิดทำการเรียนการสอนสัปดาห์หน้า ภายใต้มาตรการคุมเข้ม เช่น การให้นักเรียนนั่งสลับฟันปลา
ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวออกโรงเตือนและระบุว่าทุกคนต้องทำตัวให้คุ้นกับชีวิตวิถีใหม่ด้วยการทำงานทางไกลและรักษาระยะห่างทางสังคมจนกว่าจะมีวัคซีน หรือมีวิธีการรักษาโควิด-19
หลายบริษัทระบุว่า จะให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ ขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า Odakyu Electric Railway ระบุว่าจะเผยแพร่ข้อมูลการใช้งานเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารสามารถหลีกเลี่ยงรถไฟขบวนที่แน่นขนัดได้
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโซนีระบุว่า จะให้พนักงานประมาณ 30% กลับไปทำงานที่ออฟฟิศในเดือนมิ.ย. ขณะที่บริษัทฮิตาชิระบุว่า ตั้งเป้าให้พนักงานประมาณครึ่งหนึ่งทำงานที่บ้าน
“ เราจะไม่กลับไปทำงานในสไตล์ก่อนหน้านี้อีก” ฮิเดโนบุ นาคาฮาตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารให้สัมภาษณ์สื่อ
“ เราจะเร่งกระบวนการทำงานใหม่ คือทำงานจากที่บ้านด้วยมาตรฐานใหม่”
ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ไวรัสโคโรนาสามารถเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศและพฤติกรรมของประชาชน