ประท้วงโอลิมปิกที่ริโอ
การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกถึงนครริโอ เดอ จาเนโรแล้วทางเรือหลังจากวิ่งผ่านเมืองในบราซิลมานานถึง 3เดือน
โดยนายเอดดูอาร์โด พิเอส นายกเทศมนตรีนครริโอ เป็นผู้วิ่งถือคบเพลิงไปทั่วเขตตัวเมืองของริโอ แต่เกิดเหตุไม่คาดคิดหลังจากนั้นทางตอนเหนือของเมือง เมื่อการวิ่งคบเพลิงถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มผู้ประท้วงที่โกรธเกรี้ยวจากจำนวนเงินในการเป็นเจ้าภาพจัดการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของบราซิลที่พวกเขาเชื่อว่าสูงมากเกินไป ไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจของบราซิลในขณะนี้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของเมืองต้องใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงให้แยกย้ายกันไป
ทั้งนี้ มีภาพในเว็บไซต์ข่าวที่แสดงให้เห็นว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อยหนึ่งนายที่ใช้อาวุธยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วงโดยตรง
ทั้งนี้ ยังมีภาพกลุ่มคนจำนวนมาก รวมถึงหลายครอบครัวที่พาเด็กๆ เข้ามาร่วมชมการวิ่งคบเพลิงไปทั่วเมือง โดยทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวกับการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยทางตำรวจให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า กลุ่มคนเหล่านี้กีดขวางการจราจรและไม่ยอมหลบเพื่อเปิดพื้นที่ให้อีกหนึ่งเลนให้กับผู้วิ่งคบเพลิง ซึ่งมีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้และมีการกั้นถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการวิ่งด้วย
ทั้งนี้ ทางตำรวจแจ้งว่า พวกเขาต้องทำตามหน้าที่ที่จะต้องจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้า เพื่อเคลียร์ถนนทางวิ่ง และเพื่อทำให้พิธีการวิ่งเสร็จสมบูรณ์
นายไวร์ เดวีส์ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีในบราซิลรายงานว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ทางผู้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรู้สึกกังวลมาโดยตลอดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ หลังจากการวิ่งคบเพลิงในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความสงบมาตลอด
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเขตตัวเมืองนิเตรอย ซึ่งอยู่ตรงข้ามอ่าวจากนครริโอ ในช่วงวิ่งคบเพลิงที่ผ่านเมืองนี้โดยตำรวจใช้สเปรย์พริกไทยกับกลุ่มผู้ชุมนุม และขบวนวิ่งคบเพลิงบางส่วนต้องถูกยกเลิกไป
ปัจจุบัน บราซิลกำลังอยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงและมีวิกฤตทางการเมืองในประเทศ จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจมีผู้ชุมนุมประท้วงอีกครั้งในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในวันที่ 5 ส.ค.นี้
และมีข่าวร้ายจากทีมผู้จัดงานคือ ตั๋วเข้าชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้มากกว่า 1 ล้านใบยังคงขายไม่หมด