ผู้ว่าการกรุงโตเกียวหญิงคนแรก
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูริโกะ โคอิเกะได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าการหญิงคนแรกของกรุงโตเกียว อ้างอิงจากผลสำรวจของเอ็กซิทโพลล์
สถานีโทรทัศน์สาธารณะเอ็นเอชเคและสื่อสำนักอื่นในญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า นางสาวโคอิเกะ จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งหลังจากโพลล์ปิดการสำรวจลงในเวลา 20.00 น.
หากเธอได้รับตำแหน่งสำคัญนี้ ความท้าทายสำคัญที่รอเธออยู่คือปัญหาทางการคลังที่บั่นทอนการเตรียมความพร้อมที่จะเป็นประเทศเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2563
ทั้งนี้ ข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกดดันให้ผู้ว่าการกรุงโตเกียวลาออกไปก่อนหน้านี้ถึง 2 คน
นางสาวโคอิเกะ วัย 64 ปี กล่าวกับบรรดากองเชียร์ผู้ให้การสนับสนุนเธอว่า “ดิฉันจะนำพาการเมืองของกรุงโตเกียวในวิถีทางที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นโตเกียวในด้านที่คุณไม่เคยเห็น ”
” ขณะที่รู้สึกได้ถึงภาระหน้าที่ที่หนักหนา ดิฉันต้องการผลักดันให้รัฐบาลของกรุงโตเกียวเจริญรุดหน้าจากการทำหน้าที่ของผู้ว่าการคนใหม่ ”
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันในการลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด 21 คน เพื่อช่วงชิงตำแหน่งผู้บริหารจังหวัดที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยมีนางสาวโคอิเกะ นักการเมืองฮิโรยะ มาสุดะ และนักหนังสือพิมพ์ชุนทาโร โทริโงเอะ มีคะแนนนำโด่งมาด้วยกัน
มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 31 ก.ค.หลังจาก นายโยอิจิ มาสุโซเอะอดีตผู้ว่าฯ ได้ลาออกไปในเดือนมิ.ย. หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงความไม่เหมาะสม ที่เขาเอาเงินกองทุนเพื่อการเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกมาใช้ส่วนตัวในช่วงวันหยุด ซื้องานศิลปะ และซื้อการ์ตูนสำหรับลูกๆของเขา
นายมาสุโซเอะ ซึ่งเคยชนะการเลือกตั้งโดยสัญญาว่าจะบริหารงานโดยปราศจากข่าวฉาว เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ยอมรับเรื่องการนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวอย่างไม่ถูกต้องของเขา
โดยก่อนหน้านั้น นายนาโอกิ อิโนเสะ ก็ได้ลาออกจากการเป็นผู้ว่าฯ และผู้บริหารกองทุนนี้จากข่าวฉาวในปี 2556 หลังจากกรุงโตเกียวชนะในการได้สิทธิเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
นับแต่นั้นเป็นต้นมา การเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2563 ของกรุงโตเกียวก็ได้รับผลกระทบจากข่าวอื้อฉาว การใช้จ่ายเกินวงเงิน การบริหารที่งุ่มง่ามและการก่อสร้างสนามกีฬาที่ล่าช้า
ทั้งนี้ หนึ่งในหน้าที่สำคัญของผู้ว่าการคนใหม่คือ การเดินทางไปนครริโอ เดอ จาเนโร ในช่วงท้ายของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2559 ในเดือนส.ค.นี้ เพื่อรับมอบธงโอลิมปิกในการเป็นประเทศเจ้าภาพในการแข่งขันครั้งหน้า