คาดกม.ความมั่นคงใหม่ทำเงินทุนหนีจากฮ่องกง
ฮ่องกง : บรรดานายธนาคารและบริษัทจัดหางานคาดการณ์ว่ากฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่จากจีนจะทำให้เงินทุนและบรรดาคนเก่งมากความสามารถโบยบินหนีออกจากฮ่องกง
มีการนำเสนอกฎหมายความมั่นคง ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสรีภาพในฮ่องกง ขึ้นมาหลังจากเกิดการประท้วงครั้งรุนแรงและยาวนานที่สุดในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว และจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของฮ่องกงที่เข้าสู่ภาวะถดถอยอยู่ก่อนแล้ว
นายธนาคารอาวุโสรายหนึ่งประจำธนาคารเอกชนในยุโรปให้ความเห็นว่า “ มีนักลงทุนหลายรายที่หวังว่าเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นปีที่แล้วจะจากไป ตอนนี้พวกเขาจะเร่งลดความเสี่ยงในการลงทุนที่นี่ ”
“ ในหลายเคสเมื่อปีที่แล้ว เราเห็นลูกค้าเลือกใช้แผนสอง และไม่โยกทรัพย์สินออกจากฮ่องกง แต่ตอนนี้ผมได้รับคำขอจากลูกค้าให้ขยับทรัพย์สินของพวกเขาแล้ว” นายธนาคาร ซึ่งบริหารบริษัทที่มีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ระบุ โดยเขาขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากไม่มีอำนาจในการพูดประเด็นนี้กับสื่อ
โดยในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงดิ่งลงกว่า 5%
สำหรับฮับการเงินทั่วโลก ฮ่องกงอยู่ในอันดับ 2 ในด้านทรัพย์สินต่อบุคคลรองจากสวิตเซอร์แลนด์เมื่อกลางปี 2562 และฮ่องกงรั้งอันดับ 10 จากจำนวนมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรายงานของ Credit Suisse
ฮ่องกงแข่งขันอย่างดุเดือดกับสิงคโปร์เพื่อขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินในเอเชีย แต่ธนาคารเอกชนรายใหญ่ทั้ง Credit Suisse และ UBS รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งในเอเชียมีการดำเนินกิจการในฮับทั้งสองแห่ง
“ จากการประท้วงในปีที่แล้ว หลายคนตัดสินใจลงทุนในสิงคโปร์แทน ” Rahul Sen จากบริษัท Boyden ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานและที่ปรึกษาด้านการบริหารสินทรัพย์ระบุ
นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและนักการเมืองในฮ่องกงคัดค้านกฎหมายความมั่นคงของจีนมานานหลายปี โดยโต้ว่าจะเป็นการละเมิดอธิปไตยของฮ่องกงภายใต้หลักการ ‘ หนึ่งประเทศ สองระบบ ’ หลังจากฮ่องกงกลับคืนมาเป็นของจีนในปี 2540
นายธนาคารหลายคนระบุว่า ฮ่องกงตอนนี้ตกที่นั่งลำบากในการดึงดูดคนเก่ง เนื่องจากทั้งบุคคลและสถาบันการเงินมุ่งปฏิบัติตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีน
“ ที่ผ่านมา เราเห็นว่าน้อยคนนักที่อยากจะย้ายออกไปจากฮ่องกง แต่ตอนนี้กลับมีมากขึ้นแล้ว” นายธนาคารอาวุโสจากธนาคารการลงทุนยุโรปในฮ่องกงให้ความเห็น
โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. บรรดานักเคลื่อนไหวในฮ่องกงเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านแผนการของจีน แต่มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจหากมีการประท้วงจะยิ่งซ้ำเติมฮ่องกงที่เศรษฐกิจถดถอยอยู่ก่อนแล้ว
“ เศรษฐกิจฮ่องกงจะดำเนินต่อไปภายใต้แรงกดดันมหาศาล ” แอนโธนี ชาน หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนประจำ Union Bancaire Privee อ้างถึงการประท้วงที่อาจผุดขึ้นมาอีกในปีนี้