เวิลด์แบงค์เฝ้าระวังเบร็กซิท
นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นหลังจากการลงประชามติขอแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรว่า
อาจสั่นคลอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเขาให้สัมภาษณ์นอกรอบกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจากประเทศกลุ่มจี-20 และประธานธนาคารกลางจากหลายประเทศที่เมืองเฉิงตู ในประเทศจีนว่า “เราคิดว่าสหรัฐอเมริกามั่นคง ยูโรโซนดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่เบร็กซิทส่งผลกระทบค่อนข้างแรง และเรากำลังพยายามหาทางเข้าใจว่า จะมีผลกระทบที่แท้จริงเพียงใด แต่ดูเหมือนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะไม่น่าผิดหวังอีก ”
ก่อนหน้าจะเกิดเบร็กซิท ในเดือนมิ.ย. ธนาคารโลกได้ปรับลดแนวโน้มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากเดิม 2.9% ในเดือนม.ค. ลงมาอยู่ที่ 2.4% จากการใช้จ่ายทางธุรกิจที่ลดลงจากประเทศเศรษฐกิจหน้า และผู้ส่งออกโภคภัณฑ์ในประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่ต้องดิ้นรนที่จะปรับลดราคาลง โดยในเดือนเม.ย.นายคิมได้เตือนว่า เศรษฐกิจโลกจะดำเนินไปได้ไม่ดีนักในสภาวะที่มีความผันผวน
โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางไปร่วมประชุมที่เมืองเฉิงตู เขาได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีน และผู้นำองค์การระดับโลกหลายคนในกรุงปักกิ่งเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้าและการเงิน มีการเปิดเผยผลการประชุมเมื่อวันที่ 22 ก.ค.
ระหว่างรัฐบาลจีนและองค์การอนามัยโลกว่า ทางธนาคารโลกได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของระบบดูแลสุขภาพของจีนในปัจจุบันหลายประการ เพื่อเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณได้มากถึง 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี
จากการประชุมในจีน นายคิมรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการปฏิเสธกระแสโลกาภิวัตน์ในตะวันตก ขณะที่การเปิดการค้าเสรีที่มากขึ้นช่วยให้ผู้คนจำนวนมากหลุดพ้นจากความยากจน ชนชั้นกลางในประเทศรายได้สูงดูเหมือนจะมีรายได้ลดลง อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของเขา
“ผู้คนที่ใข้ชีวิต ทำในสิ่งที่ควรทำ ทำงานในโรงงาน กำลังมีรายได้ดี อาจพบว่าตัวเองต้องออกจากงาน และไม่สามารถแข่งขันกับงานที่มีเทคโนโลยีสูงที่มีอยู่ได้”
นายคิมกล่าวว่า รัฐบาลในหลายประเทศต้องทำมากกว่านี้ที่จะปรับปรุงด้านสุขภาพ การศึกษาและทักษะสำหรับประชาชนในประเทศ โดยเสริมว่างานของธนาคารโลกคือ การโน้มน้าวให้ผู้นำประเทศทั่วโลกลงมือสร้างโลกที่เติบโตขึ้น แต่เติบโตในวิถีทางเพื่อทุกคน
นางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟยังได้กล่าวว่า ต้องมีการลงมือทำมากขึ้นเพื่อแบ่งปันผลประโยขน์ของการเติบโตและการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเฝ้าระวังผลกระทบจากเบร็กซิท
โดยนางลาการ์ดกล่าวหลังจากมีการประชุมได้สองวันว่า “เราได้มาถึงช่วงเวลาที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพจากเบร็กซิท และตลาดการเงินที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง การเติบโตที่ไม่เต็มที่หลังยุคการเกิดวิกฤตยังคงมีอยู่ อุปสงค์ที่ซบเซาในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้า และการเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบากที่จะคงสถานะการขยายตัวที่มั่นคงในหลายประเทศเศรษฐกิจใหม่”