เหตุกราดยิงในมิวนิก
วัยรุ่นชายชาวเยอรมัน-อิหร่านซึ่งก่อเหตุสังหารเหยื่อไปถึง 9 รายและปลิดชีพตัวเองตามในเมืองมิวนิก เคยมีประวัติเข้ารับการรักษาทางจิตเวช
และไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลามอ้างอิงจากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายเดวิด อาลี ซันโบลี ซึ่งเกิดและได้รับการเลี้ยงดูในเยอรมนี เปิดฉากกราดยิงผู้คนใกล้กับห้างสรรพสินค้าโอลิมเปียที่มีผู้คนคับคั่งในเมืองมิวนิกเมื่อวันที่ 22 ก.ค. นับเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดกับพลเมืองในยุโรปตะวันตกเป็นครั้งที่ 3 และเป็นครั้งที่ 2 ทางตะวันตกของเยอรมนีในรอบ 8 วัน
ทางการเยอรมันรายงานว่า เขาอาจใช้ชื่อเฟซบุ๊กเป็นผู้หญิงและโพสต์ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับโปรโมชั่นของร้านแมคโดนัลด์เพื่อลวงผู้คนให้มาที่ร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งนี้ ที่ซึ่งเขาเปิดฉากกราดยิงสังหารเหยื่อเป็นแห่งแรก
เพื่อนบ้านกล่าวว่า ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ให้เห็นก่อนที่จะเกิดพฤติกรรมรุนแรงถึงแก่ชีวิต นายซันโบลีเป็นวัยรุ่นที่ค่อนข้างเงียบ ชอบช่วยเหลือคน และชอบเล่นวีดีโอเกม
เมื่อวันที่ 23 ก.ค.นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีกล่าวว่า เธอรู้สึกเศร้าสะเทือนใจ ที่มีเหยื่อหลายรายถูกสังหาร เธอให้คำมั่นว่าฝ่ายความมั่นคงจะทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของสาธาณชน
เธอกล่าวว่า “ประชาชนในเมืองมิวนิกต้องประสบกับคืนที่สะเทือนขวัญ คืนที่มีแต่ความยุ่งยากให้เราต้องฟันฝ่าไป”
“เราจะรวมกันเป็นหนึ่ง และดิฉันขอกล่าวในนามของรัฐบาลว่า เรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้ที่ไม่มีโอกาสกลับไปหาครอบครัวของพวกเขาอีก ทั้งพ่อแม่และเด็กๆ ที่ซึ่งมีแต่ความว่างเปล่าในวันนี้และไร้ซึ่งจุดหมาย ดิฉันพูดจากความรู้สึกส่วนตัวและพูดความรู้สึกของผู้คนมากมายในเยอรมนี เราขอแชร์ความเจ็บปวดของพวกคุณ เราคิดถึงพวกคุณ และเรารู้สึกเป็นทุกข์กับคุณ”
โดยในบรรดาเหยื่อที่เสียชีวิตทั้ง 9 รายมี 3 รายเป็นชาวเติร์ก อีก 3 รายเป็นชาวโคโซเวียและอีก 1 รายเป็นชาวกรีก ส่วนใหญ่เป็นคนอายุน้อยอายุ 15 -21 ปี และเป็นผู้หญิง 3 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย โดย 3 รายอาการยังวิกฤต อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมิวนิก
ทั้งนี้ ยุโรปต้องช็อกกับเหตุร้ายสะเทือนขวัญเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ โดย 4 วันก่อนหน้านี้ผู้ลี้ภัยวัย 17 ปีคนหนึ่งก่อเหตุร้ายโดยใช้ขวานและมีดเป็นอาวุธบนขบวนรถไฟใกล้เมืองเวอร์สบวกใกล้แคว้นบาวาเรีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
ประธานาธิบดีโยอาคิม เกาค์ของเยอรมนีกล่าวว่า เขารู้สึกตระหนกจากเหตุร้ายที่เป็นอาชญากรรมครั้งนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปเฟเดริกา โมเกรินีกล่าวว่า “เรารำลึกและอาลัยถึงเหยื่อ ครอบครัวของพวกเขา และชาวเยอรมันทุกคน ยุโรปต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว”
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสแสดงความเห็นใจและขอให้ชาวเยอรมันมีความสามัคคีเป็นปึกแผ่นทั้งภาครัฐและประชาชน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกากล่าวว่าจะให้การสนับสนุนอย่างดีที่สุดสำหรับเยอรมนีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ.