เหตุก่อการร้ายที่เมืองนีซ
รถบรรทุกพุ่งเข้าชนกลุ่มคนที่ร่วมฉลองวันชาติฝรั่งเศสในเมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย
โดยมีเด็กรวมอยู่ด้วย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน อ้างอิงจากข้อมูลของทางการฝรั่งเศส
โดยเหตุร้ายสะเทือนขวัญเกิดขึ้นบนถนนพรอมเมอนาด เดส์ อองเกลส์ หลังจากการจุดพลุเฉลิมฉลองงานวันชาติฝรั่งเศส คนขับรถบรรทุกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตและจากการตรวจค้นภายในรถบรรทุกพบอาวุธจำนวนหนึ่งทั้งปืนและระเบิด
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นพฤติกรรมของผู้ก่อการร้ายและเขาได้ประกาศขยายเวลาภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพิ่มอีก 3 เดือน
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเข้าสู่ภาวะเฝ้าระวังความปลอดภัยระดับสูงหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสในเดือนพ.ย. ปีที่แล้วซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 130 รายและได้รับบาดเจ็บหลายร้อยราย โดยภาวะฉุกเฉินในฝรั่งเศสจากการประกาศครั้งก่อนจะสิ้นสุดลงในวันที่ 26 ก.ค.นี้
มีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บประมาณ 50 ราย โดย 18 รายบาดเจ็บสาหัสจากเหตุสะเทือนขวัญในวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันบาสตีย์ หรือวันชาติฝรั่งเศส
นายชอง-มิเชล แพร็ท ซึ่งเป็นอัยการให้ข้อมูลว่า รถบรรทุกคันที่ก่อเหตุวิ่งเป็นระยะทาง 2 ก.ม.ฝ่าเข้าไปในฝูงชน กำลังมีการสืบสวนว่าคนขับรถบรรทุกเป็นผู้ลงมือก่อเหตุร้ายเพียงคนเดียวหรือไม่ จากการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายใดที่ออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุเลวร้ายครั้งนี้พยานผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวว่า “ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างวิ่ง วิ่ง วิ่งหนีกันวุ่นวาย เราได้ยินเสียงเหมือนเสียงปืน ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงพลุ เพราะเป็นวันชาติ ทุกคนกลัวมาก เราวิ่งเพราะอยากออกไปจากที่เกิดเหตุ เราวิ่งไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อหาที่หลบภัย”
ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นหลังจากการแสดงพลุเฉลิมฉลองวันชาติจบลง และเสริมว่า “เราเห็นผู้คนบาดเจ็บ เลือดและเศษซากกระจายปลิวว่อนไปหมด”
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์กล่าวว่า “ฝรั่งเศสถูกกระทบหนัก เราต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อต่อสู้กับเหตุก่อการร้าย ประเทศฝรั่งเศสกำลังประสบกับการก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม และขอแสดงความเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหลายราย”
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกากล่าวประณาม เหตุรุนแรงครั้งนี้ว่าเป็นภัยก่อการร้ายที่สะเทือนขวัญอย่างยิ่ง
โดยในวันที่ 15 ก.ค. มีการประกาศให้มีการลดธงลงครึ่งเสาทั่วประเทศฝรั่งเศส และมีการยกเลิกการจัดงานเทศกาลดนตรีแจ๊สที่เมืองนีซเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้เหยื่อผู้เสียชีวิต.