เธเรซา เมย์ขึ้นแท่นนายกฯอังกฤษคนใหม่
นางเธเรซา เมย์ สัญญาที่จะนำพาให้สหราชอาณาจักรดีขึ้นกว่านี้และกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปประสบความสำเร็จ
หลังจากเธอได้รับการประกาศให้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมของรัฐบาลและกลายเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ
นางเมย์กล่าวภายนอกรัฐสภาว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน โดยอดีตนายกฯคาเมรอนเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศตั้งแต่ปี 2553และตัดสินใจลาออกหลังจากรู้ผลการลงประชามติเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ นางเธเรซา เมย์เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหาดไทยมาตั้งแต่ปี2553 เธอเคยมีคู่แข่งในการชิงตำแหน่งที่น่ากลัวคือ นางแอนเดรีย ลีดซัม แต่จู่ๆ นางลีดซัม ก็ขอถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่ง โดยเธอกล่าวว่า เธอไม่มีแรงสนับสนุนมากพอที่จะสร้างรัฐบาลที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพได้
การตัดสินใจถอนตัวของเธอทำให้นางเมย์ กลายเป็นผู้ชิงตำแหน่งเพียงคนเดียว เมื่อไม่มีคู่แข่ง เธอจึงกลายเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่และจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย
ในการแถลงต่อหน้าสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม นางเมย์ได้กล่าวยกย่องการทำหน้าที่ผู้นำพรรคและผู้นำประเทศของอดีตนายกฯคาเมรอนในวาระการดำรงตำแหน่งของเขาที่ผ่านมาตลอดหลายปี
โดยเธอกล่าวกับสื่อว่า “ ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกและขอน้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพื่อจะเป็นผู้นำประเทศตนต่อไป ”
เธอกล่าวต่อไปว่า ภาวะผู้นำของเธอสอดคล้องกับความต้องการสรรหาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและได้รับการพิสูจน์แล้ว ความสามารถในการนำพาทั้งพรรคและประเทศ และการมีวิสัยทัศน์เชิงบวกสำหรับอนาคตของสหราชอาณาจักร
“ วิสัยทัศน์ของประเทศที่ไม่เพียงทำงานเพื่ออภิสิทธิ์ชนเพียงไม่กี่คน แต่ทำเพื่อประชาชนทุกคน เพราะเรากำลังควบคุมให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และเราจะสร้างประเทศให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกัน ” เธอกล่าว
และในข้อความที่อาจจะเขียนขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับฝ่ายสนับสนุนเบร็กซิทนั้น นางเมย์ซึ่งเป็นผู้ร่วมรณรงค์ให้อยู่ต่อในอียูกล่าวว่า “ เบร็กซิทก็คือเบร็กซิท และเรากำลังจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี ”
โดยนางเมย์จะมีการตัดสินใจปรับตัวคนทำงานในคณะรัฐมนตรีใหม่ของเธอในเร็วๆนี้อดีตนายกฯคาเมรอนประกาศเจตนารมณ์ที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากทราบว่าฝ่ายเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการลงประชามติของประชาชน โดยฝ่ายเบร็กซิทชนะไป 52% ต่อ 48%