จีนกระชับสัมพันธ์รัสเซีย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินให้คำมั่นถึงการให้ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและพิจารณาตรวจสอบข้อตกลงที่ทำร่วมกันเมื่อวันที่ 2 ก.ค.
โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในขณะที่ต้องประสบกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับประเทศตะวันตก
นับเป็นการเยือนจีนเป็นครั้งที่ 4 ของประธานาธิบดีปูติน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสีเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศจีนตั้งแต่ปี 2556 ทั้งสองคนได้ย้ำถึงการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มที่สะท้อนถึงการค้าที่เชื่อมโยงกัน การลงทุน และความสนใจด้านภูมิรัฐศาสตร์
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียกล่าวว่า “รัสเซียและจีนมีความคิดว่าเรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากและเกือบจะมีสถานะเดียวกันในเวทีระดับนานาชาติ”
โดยผู้นำของรัสเซียกล่าวว่า ทั้งสองคนได้สนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องการร่วมมือกันให้หนักแน่นยิ่งขึ้นในการต่อสู้กับการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลก อาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ซีเรีย และความมั่นคงในทะเลจีนใต้
ผู้นำของจีนได้เน้นย้ำว่า ปีนี้เป็นปีที่เฉลิมฉลองการครบรอบ 15 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซีย และหวังว่าทั้งสองประเทศจะยังคงเป็นมหามิตรกันตลอดไป
ทั้งสองประเทศได้ลงนามมากกว่า 30 ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค เช่น การค้า โครงสร้างพื้นฐาน กิจการต่างประเทศ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เกษตรกรรม การเงิน พลังงาน กีฬา และสื่อ
ที่สำคัญ บริษัทรอสเนฟท์ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียได้ลงนามในดีลธุรกิจกับ Sinopec ซึ่งเป็นองค์การปิโตรเคมีของจีนในเรื่องการพัฒนาการสร้างโรงงานผลิตก๊าซและปิโตรเคมีในไซบีเรียตะวันออก เนื่องจากจีนกำลังแสวงหาพลังงานเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ผู้นำทั้งสองชาติได้ลงนามในคำแถลงการณ์ร่วม 2 ฉบับ หนึ่งคือเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพยุทธศาสตร์ทั่วโลกให้แข็งแกร่ง และฉบับที่ 2 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาข้อมูลข่าวสารและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า 58 ข้อตกลงที่แตกต่างที่มีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา โดยเพิ่มเติมว่าทั้งสองประเทศกำลังมองหาข้อตกลงในการสร้างรถไฟความเร็วสูงในรัสเซียภายในสิ้นปีนี้
ประธานาธิบดีสียังได้เรียกร้องความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวในรัสเซียและจีน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายแผ่ขยายอิทธิพลเพิ่มขึ้นในสื่อที่มีผลต่อความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลก
ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี จีนมีการลงโทษขั้นรุนแรงกับผู้เห็นต่างและมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดกับสื่อ ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวหาว่าประธานาธิบดีปูตินมีการละเมิดสิทธิิ์.