ตลาดน้ำมันจะสมดุลปีหน้า
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาให้ความเห็นว่า ตลาดน้ำมันทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในปี 2560
เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะสามารถครอบคลุมอุปทานที่ล้นตลาดและกดดันให้ราคาน้ำมันดิ่งเหวมาตลอด 2 ปี
นายเออร์เนสท์ โมนิซ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ กล่าวว่า อุปทานจะเพียงพอเมื่อตลาดน้ำมันเข้าสู่ภาวะสมดุล โดยเขากล่าวถึงซาอุดิอาระเบียที่ประกาศชัดว่า จะยังคงเพดานการผลิตสำรองน้ำมันไว้ ถ้าเป็นที่ต้องการของตลาด
โดยนายโมนิซกล่าวหลังเสร็จสิ่้นการประชุมกับรัฐมนตรีจากซาอุดิอาระเบีย นายคาลิด อัล-ฟาลิห์ ทั้งสองคนอยู่ที่จีน ซึ่งมีการจัดการประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้านพลังงานจาก 20 ประเทศพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจใหม่
ทั้งนี้ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุฯ ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ว่า ช่วงเวลาที่อุปสงค์ล้นตลาดได้จบลงแล้วและเขาคาดการณ์ว่า ตลาดจะสมดุลภายในปีนี้
นายโมนิซกล่าวว่า “ก็มีเหตุผลนะ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปีหน้ามากกว่า ถ้าเป็นปีหน้า คนส่วนใหญ่คาดการณ์ถึงความสมดุลของตลาดในปีหน้า”
ในปี 2557 ราคาน้ำมันดิบที่เคยพุ่งสูงถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลลดลงต่ำสุดในรอบ 13 ปี มาเหลือน้อยกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงกลางเดือนก.พ.ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
โดยนายโมนิซกล่าวว่า “เรายังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ปริมาณการผลิตมากกว่าความต้องการ แต่ช่องว่างนี้กำลังค่อยๆแคบเข้ามาอย่างช้าๆ และการผลิตไม่เพิ่มขึ้น”
เขากล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่อุปทานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณการผลิตที่พัฒนาเพิ่มขึ้นจากบ่อน้ำมันในสหรัฐฯ
เขากล่าวเสริมว่า “ราคาจะค่อยๆ ขยับสูงขึ้น จาก 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 60 เป็น 70 คุณอาจจะเห็นบ่อน้ำมันเพิ่มขึ้น ตลาดจะสมบูรณ์ด้วยอุปทานที่ลงตัว และไม่ต่องคิดเลยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า”
นายโมนิซกล่าวว่า รัฐมนตรีพลังงานของซาอุฯ ประกาศว่า รัฐบาลซาอุฯ ต้องการพึ่งพากลไกตลาดในการตั้งราคาแทนที่การกำหนดราคา
“เขาพูดชัดว่ามากๆว่า ซาอุฯตั้งใจที่จะคงกำลังการผลิตสำรองไว้ หากตลาดมีความต้องการ” เขากล่าวสรุป