เบร็กซิทกระทบยูนิลีเวอร์
ผู้บริหารเดิมและผู้บริหารปัจจุบันของบริษัทยูนิลีเวอร์ให้ความเห็นว่าเบร็กซิทหรือการที่สหราชอาณาจักรตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปจะส่งผลกระทบด้านลบกับบริษัท
โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่า ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาของการลงประชามติของสหราชอาณาจักรจะส่งผลกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคแห่งนี้พอสมควร
เขากล่าวว่า ทางยูนิลีเวอร์กำลังพยายามตอบคำถามถึงอนาคตของเบร็กซิทจากพนักงานในบริษัทและผู้ที่เกษียณไปแล้ว
ทั้งนี้ ทางบริษัทแถลงว่า จะยังคงดำเนินการบางอย่าง เช่น การทำวิจัยในห้องปฏิบัติการในสหราชอาณาจักรอยู่ต่อไปถึงแม้จะออกจากสหภาพยุโรปแล้ว แต่เสริมว่า “อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการขั้นพื้นฐานของบริษัทจะมีความแตกต่างออกไป ถ้ามีการโหวตว่าตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป”
ทางโฆษกกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลกระทบที่ชัดเจนของเบร็กซิท ทั้งในเรื่องตำแหน่งงาน การจ้างงาน หรือการลงทุนของทางบริษัท
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายพอล โพลแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วยนายแพททริก เซสเคาและนายไนออล ฟิตซ์เจอรัลด์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเซอร์ไมเคิล เพอร์รี อดีตประธานบริษัทได้ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพนักงานในบริษัท โดยมีข้อความดังนี้
“ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะโน้มน้าวความคิดเห็นของพวกคุณในการโหวต แต่ในการตัดสินใจครั้งสำคัญและไม่อาจหวนคืนมาได้ครั้งนี้ เรารู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องชี้ให้เห็นว่า จากความเห็นที่ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบมาแล้วของเรา ยูนิลีเวอร์ในสหราชอาณาจักรที่เป็นบริษัทที่มีการดำเนินการที่รุ่งโรจน์ มีศูนย์วิจัยนานาชาติ โรงงาน และสำนักงานใหญ่ของทั่วโลก จะได้รับผลกระทบด้านลบหากสหราชอาณาจักรตัดสินใจที่จะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป”
โดยในจดหมายถึงพนักงานในบริษัท 7,500 คนในสหราชอาณาจักร ทางกลุ่มผู้บริหารกล่าวว่า บริษัทเป็นหนี้พนักงานในความสำเร็จของบริษัทที่ผ่านมากว่า 25 ปี ที่ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดยุโรปที่มีผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคน
ในจดหมายยังได้เน้นถึงความสำคัญของสหภาพยุโรปที่ได้ช่วยเปิดตลาดและขับเคลื่อนมาตรฐานไปสู่ส่วนอื่นของโลก รวมถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการปกป้องสังคม
นอกจากนี้ ยังเสริมอีกว่า สหภาพยุโรปเป็นหน้าต่างบานหนึ่งของโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อธุรกิจที่มีฐานอยู่ในยุโรปอย่างบริษัทยูนิลีเวอร์ ในการไขว่คว้าหาการเติบโตและความมั่งคั่งในตลาดทั่วโลก
แต่ผู้ที่ร่วมรณรงค์ให้มีการสนับสนุนเบร็กซิทกล่าวว่า การค้าในยุโรปจะดำเนินต่อไปหลังจากเบร็กซิท และสหราชอาณาจักรยังสามารถทำข้อตกลงทางการค้ากับทางสหรัฐอเมริกาที่ทางสหภาพยุโรปล้มเหลวในการเจรจามาก่อนหน้านี้ได้ด้วย.