สินค้าแบรนด์กีฬาฮอตในจีน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้รณรงค์มาเป็นเวลานานให้ชาวจีนลดการบริโภคสินค้าแบรนด์หรูหรา ราคาแพงจากชาติตะวันตก
ซึ่งส่งผลกระทบให้ยอดขายแบรนด์ดังระดับโลกหล่นวูบในจีน เช่น ฮิวโก บอสและบีเอ็มดับเบิ้ลยู
ในขณะที่สินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมซบเซากันถ้วนหน้า แต่สินค้าแบรนด์กีฬาชื่อดังกลับมียอดขายที่ผงาดขึ้นมาอยู่แถวหน้าในจีนได้ โดยยอดขายแบรนด์ไนกี้แข็งแกร่งต่อเนื่องด้วยออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นจาก 27% ในเดือนก.ย.ปีที่แล้วมาเป็น 35% ในเดือนเม.ย.ปีนี้
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทไนกี้ประกาศว่า จะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการของจีนเพื่อฝึกซ้อมอบรมครูสอนวิชาพลศึกษาจำนวน 7,000 คน โดยนายมาร์ค พาร์คเกอร์ ประธานและซีอีโอ ของไนกี้แถลงว่า“คนในรุ่นปัจจุบันเคลื่อนไหวร่างกายน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และเราจะช่วยกันเปลี่ยนแปลง”
นอกจากนี้ ยอดขายสินค้าแบรนด์อาดิดาสในจีนเพิ่มขึ้นถึง 38% เป็น 2,790 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้อาดิดาสทั่วโลก ในปีที่แล้ว อาดิดาสซึ่งเป็นแบรนด์สินค้ากีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเปิดร้านในจีนมากกว่า 500 แห่ง ทำให้มีร้านในจีนทั้งหมดเกือบ 9,000 แห่งและตั้งเป้าจะเพิ่มอีก 500 แห่งในปีนี้
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.นายเฮอร์เบิร์ต เฮเนอร์ ซีอีโอ ของบริษัทอาดิดาสให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า “เรากำลังไปได้สวยจริงๆในจีน” โดยมียอดขายในจีนเพิ่มขึ้นถึง 22% ในไตรมาสแรกของปีนี้
เขากล่าวว่า“ผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบสินค้าของเรามากจริงๆ” สินค้าแบรนด์กีฬาชั้นนำจากต่างประเทศรอดตัวจากนโยบายลดการใช้สินค้าราคาแพงของผู้นำจีน
เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น จึงเลือกสรรสินค้าที่ดูดี มีสไตล์ และใช้งานได้หลากหลายโอกาส โดยนางสาวแคทเธอรีน หลิม นักวิเคราะห์จากบริษัทบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ สิงคโปร์กล่าวว่า มีอุปสงค์อีกมากสำหรับสินค้าใดๆก็ตามที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีและมีราคาไม่แพงนัก
หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ รายงานว่า ชาวจีนสนใจในการมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมฟิตเนสมีรายได้สูงถึง 127,200 ล้านหยวนในปี 2557 เพิ่มขึ้นถึง 84% จากปี 2552 โดยรัฐบาลจีนผลักดันให้ประชาชนสนใจในกีฬามากขึ้นก่อนที่จีนจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 2565
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมกีฬาในประเทศของจีนยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง ในขณะที่กีฬามีสัดส่วน 3% ของจีดีพีสหรัฐอเมริกา แต่กีฬากลับมีสัดส่วนคิดเป็น 0.7% ของจีดีพีจีนในปีที่แล้ว หรือคิดเป็นมูลค่า 474,000 ล้านหยวน ทั้งนี้รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะให้สูงกว่า 3 ล้านล้านหยวนภายในปี 2563 อ้างอิงจากรายงานเดือนม.ค.ของนักวิเคราะห์หยู เจี้ยนเผิงจากสถาบันไอซีบีซี
เพื่อเป็นการหยุดยั้งการขยายตัวของแบรนด์กีฬาจากต่างประเทศ แบรนด์สินค้ากีฬาอ่านต๋า
ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของจีนที่มีร้านของตัวเองกว่า 9,000 แห่งในจีน ฮ่องกงและมาเก๊า ได้ประกาศแผนการร่วมทุนกับแบรนด์กีฬาชั้นนำของญี่ปุ่น แต่นักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจเพราะยอดขายของอ่านต๋าในฮ่องกงลดลงถึง 27% ในปีนี้