เกาหลีใต้ขอกลุ่มเสี่ยง LGBT ตรวจไวรัส

โซล (บลูมเบิร์ก,เอเอฟพี ) – เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ทางการกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ประกาศว่า ผู้ติดเชื้อโควิด -19 จากคลัสเตอร์สถานบันเทิงในย่านอีแทวอนเพิ่มขึ้นเป็น 101 ราย เพิ่มขึ้นจาก 86 รายในวันก่อนหน้า
ยุทธศาสตร์เชิงรุกของเกาหลีใต้ก่อนหน้านี้ในการเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาให้มากที่สุดต้องเจอกับอุปสรรคสำคัญ คือประเด็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับในเกาหลีใต้
โดยการระบาดรอบใหม่ในเกาหลีใต้ที่เกิดจากสถานบันเทิง บรรดานักเที่ยวส่วนใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงนี้คือลูกค้าชาวเกย์ ทางสาธารณสุขพยายามแกะรอยสอบสวนโรคนักเที่ยวกว่า 5,500 รายที่ไปเที่ยวบาร์ในย่านนั้นตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. – 6 พ.ค. แต่กว่าครึ่งยังคงติดตามหาไม่ได้ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อจากบาร์เหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เกาหลีใต้รายงานเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 อยู่ที่ 10,936 ราย หลังจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเลขตัวเดียวต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 8 จาก 13 วันล่าสุด โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ขณะที่ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีรายงานผู้ติดเชื้อ 102 รายจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านอีแทวอนเพิ่มขึ้น 16 รายในรอบ 24 ชม. และส่วนใหญ่เป็นชายที่มีอายุระหว่าง 20 – 30 ปี
เขาระบุว่า ทางการมีรายชื่อนักเที่ยว 10,905 รายที่ไปเที่ยวย่านนั้นจากข้อมูลของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และได้ส่งข้อความแจ้งเตือนให้พวกเขามารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโดยเร็วที่สุด
“ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการที่มีเจ้าหน้าที่ 8,559 นาย เพื่อทำการสอบสวนโรค ติดตามหาผู้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้จากข้อมูลการใช้บัตรเครดิต หรือข้อมูลผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ” ยุนแทโฮ ผอ.สำนักงานใหญ่ในการจัดการภัยพิบัติเกาหลี โดยเสริมว่า ตำรวจหลายพันนายจะลงพื้นที่ปฏิบัติการติดตามแกะรอยทันที
นายกเทศมนตรีกรุงโซลระบุว่า มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสจากกลุ่มนักเที่ยวในย่านนั้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาไปแล้วกว่า 7,000 ราย โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 11 พ.ค. เขาประกาศว่า ผู้ที่หลบเลี่ยงการตรวจไวรัสจะมีโทษปรับถึง 2 ล้านวอน ( ราว 53,083 บาท)
หลังจากทางการเกาหลีใต้เปิดเผยชื่อบาร์ที่ซูเปอร์สเปรดเดอร์คนใหม่ไปเที่ยว ก็มีคอมเมนต์ถาโถมเข้ามาในเพจเฟซบุ๊กของคิงคลับจำนวนมาก
“ มีระดับของการแบ่งแยกและเหยียดกลุ่มรักเพศเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด” ศ.คว็อกฮเยวอน ประจำมหาวิทยาลัยแทคยอง ซึ่งร่วมเขียนรายงานผลการศึกษาปี 2562 ในประเด็นผลกระทบของความหวาดกลัวการรักเพศเดียวกันที่มีต่อระบบสาธารณสุขของชาติระบุ
“ทำให้เหยื่อผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มที่จะหลบซ่อนอยู่ในเงามืด มากกว่าที่จะยอมออกมาตรวจทดสอบไวรัส”
ศ.คว็อกยังได้ชี้ว่า ผู้ที่ไปเที่ยวคลับอาจใช้เงินสดจ่ายเพื่อปกปิดข้อมูลของตัวเอง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะแกะรอยตามหาจากประวัติการใช้จ่ายเงิน
“กลุ่มรักเพศเดียวกันในเกาหลีมีความเสี่ยงที่จะเสียครอบครัว เพื่อน งาน อาชีพ และชีวิต หากพวกเขาเปิดเผยตัว” HeeZy Yang นักเคลื่อนไหวเพื่อชาวเกย์โพสต์บนทวิตเตอร์ “ หากไม่มีการตีตราและเกลียดชังผู้ป่วย ซึ่งก็เป็นเหยื่อของไวรัสเช่นกัน คนจะกล้าออกมาตรวจมากขึ้น และก็จะช่วยให้คนอื่นปลอดภัย”
ควอนจุนอุก รองผอ KCDC ระบุว่า “อคติและการแบ่งแยก” ขัดขวางปฏิบัติการป้องกันของทางการ และขอให้ประชาชนอย่ากล่าวโทษผู้ป่วยจากไวรัส
คีโมรัน นักระบาดวิทยาจากศูนย์มะเร็งแห่งชาติให้ความเห็นว่า วิธีการตรวจหาผู้ติดเชื้อแบบไดรฟ์ทรูอย่างที่เกาหลีใต้เคยใช้มาแล้วกับคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในเมืองแทกูช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมาอาจช่วยได้ในสถานการณ์นี้
“ ดิฉันคิดว่า ควรใช้วิธีการแบบเดียวกันในช่วงเวลานี้เพื่อเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้าย และช่วยให้ผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อได้รับการตรวจโดยไม่ถูกจับตามอง ”
กระทรวงสาธารณสุขให้สัญญาว่า จะไม่ขอ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ยอมมาตรวจมากเกินไป โดยชี้ว่า เหยื่อไม่จำเป็นต้องระบุชื่อคลับที่พวกเขาไปเที่ยว
“ แค่บอกเราว่าคุณอยู่ในเขตเดียวกันและต้องการตรวจ ก็สามารถตรวจได้ฟรี…หากคุณลังเลไม่แน่ใจเพิ่มอีกวันหนึ่ง อาจส่งผลกับทั้งชุมชนตลอดทั้งเดือนก่อนที่จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ”