UK เตือนติดเชื้อรอบใหม่หลังผ่อนปรน
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. รัฐบาลเผยแพร่เอกสาร 50 หน้าที่ชี้แจงรายละเอียดในการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันเตือนถึง “ช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด” สำหรับประเทศ
ในการแถลงต่อสภาเมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายกฯจอห์นสันระบุว่า “ การเดินทางของเราได้มาถึงช่วงเวลาวิกฤตที่สุด ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดอาจก่อให้เกิดหายนะ ณ จุดนี้ เรายังทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากประกาศปรับลดมาตรการครั้งแรกของเราอย่างระมัดระวัง”
โดยในเอกสาร ซึ่งมีการเผยแพร่หลังจากถ้อยแถลงของนายกฯจอห์นสันในเย็นวันที่ 10 พ.ค.ย้ำว่า การระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่วิกฤตระยะสั้น
“ มีแนวโน้มว่า โควิด-19 จะวนเวียนอยู่ท่ามกลางประชากรมนุษย์เป็นระยะยาว ทำให้เกิดการระบาดเป็นช่วงเวลา และในระยะอันใกล้ หากไม่มีมาตรการคุมเข้มอย่างต่อเนื่อง อาจมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่รอบใหม่ได้อีก ” เอกสารระบุ
โดยในเอกสารกำหนดกรอบให้ประชาชนในอังกฤษปฏิบัติตาม หลังจากมีมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดมานาน 7 สัปดาห์ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ
- สนับสนุนให้ประชาชนที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ กลับไปทำงานได้ตามเดิม
- ขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ในสถานที่ซึ่งไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ เช่น บริการขนส่งสาธารณะ
- โรงเรียนเด็กเล็กจะเปิดทำการเรียนการสอนเร็วที่สุดในวันที่ 1 มิ.ย. ขณะที่เด็กโตกว่าอาจกลับไปเรียนกับคุณครูได้ก่อนปิดเทอมฤดูร้อน
- โรงแรมบางแห่งสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนก.ค.
- นักเดินทางจากต่างประเทศจะต้องกักตัวเองนาน 2 สัปดาห์ หลังมาถึงสหราชอาณาจักร
นายกฯจอห์นสันแถลงในสภาว่า จะมีการเผยแพร่หลักเกณฑ์การรักษาระยะห่างทางสังคมในสถานที่ทำงานหลังจากนี้ในวันที่ 11 พ.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่าแนะนำให้ประชาชนกลับไปทำงานโดยไม่มีหลักเกณฑ์ในการดูแลระมัดระวังตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด
การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์จะเกิดขึ้นได้เมื่ออัตราการติดเชื้อลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ก่อน มีการยืนยันว่า สหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในยุโรป โดยแซงอิตาลีขึ้นมาเป็นรองแค่สหรัฐฯเท่านั้นในแง่ของผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 จนถึงวันที่ 11 พ.ค. มีผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักรมากถึง 32,065 ราย เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 210 รายในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในประเทศอื่นๆ โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของจำนวนประชากร และแต่ละประเทศมีมาตรการของตัวเองในการลดจำนวนผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเพิ่งเริ่มนับจำนวนผู้เสียชีวิตในชุมชน เช่น เนิร์สซิงโฮม เข้ามาเพิ่มเป็นตัวเลขทางการ โดยก่อนหน้านี้ จะนับรวมเฉพาะผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น
รัฐบาลสหราชอาณาจักรถูกพรรคฝ่ายค้านวิจารณ์หนัก โดยส.ส.หลายคนชี้ว่า จอห์นสันรับมือกับการระบาดที่อุบัติขึ้นในครั้งแรกช้าเกินไป ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรมีมาตรการคุมเข้มครั้งแรกในวันที่ 23 มี.ค.
นายกฯจอห์นสัน ( ซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้ติดเชื้อและรักษาตัวในห้องไอซียูนานหลายวัน ) ลังเลในช่วงแรกที่จะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเวลาที่โรงพยาบาลในอิตาลีประสบภาวะผู้ป่วยล้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้โรงพยาบาลได้เพียงพอ และล่าช้าในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ