ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะขยายพื้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินไปทั่วประเทศญี่ปุ่น เป็นความพยายามที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ให้เข้มงวดขึ้น และเตรียมจ่ายเงินเยียวยาประชาชนทุกคนอีกคนละ 1 แสนเยน
นายกรัฐมนตรีประกาศภาวะฉุกเฉินที่ครอบคลุมทั่วประเทศในระหว่างการประชุมของคณะทำงานรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ที่จัดขึ้นที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เนื่องจากญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ทำให้รัฐบาลทุ่มเทอย่างเต็มกำลังเพื่อยกระดับควบคุมการระบาดของไวรัสให้เป็นระดับชาติ
ความเคลื่อนไหวนี้ยังตั้งเป้าที่จะป้องกันการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดโกลเด้นวีคสิ้นเดือนเม.ย. นี้จนถึงวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
จากเดิม ที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินที่ครอบคลุม 7 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ก็ได้ขยายคำสั่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอื่นเพิ่มคือเกียวโต ไอจิ และฮอกไกโด
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. มีรายงานผู้ป่วยสะสมในญี่ปุ่นพุ่งเกิน 9,000 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 300 รายทั่วประเทศในรอบ 24 ชม. รวมถึง 149 รายในกรุงโตเกียว
การขยายคำสั่งอาจเป็นการผ่อนคลายในบางจังหวัด เช่นไอจิและเกียวโต ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้ว่าฯ ขอให้รัฐบาลกลางประกาศให้ครอบคลุมจังหวัดของพวกเขาด้วย
แต่ผู้ว่าราชการในหลายจังหวัดที่ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรู้สึกสับสน
“การติดเชื้อในจังหวัดของเราอยู่ในระดับที่ทรงตัว เรากำลังจะเปลี่ยนสิ่งที่เราขอความร่วมมือจากประชาชน ผมไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย” ฮิเดโย ฮานามิซุ ผู้ว่าราชการจ.นีงาตะที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ 47 รายให้ความเห็น
ในวันที่ 17 เม.ย. มีรายงานว่าหนึ่งในคณะรัฐมนตรีตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เขาเป็นผู้ป่วยรายที่ 3 จากสำนักคณะรัฐมนตรีที่ติดเชื้อ
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สนับสนุนให้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ มาตรการนี้ให้อำนาจเทศบาลในท้องถิ่นขอให้ประชาชนอยู่บ้าน แต่ไม่เป็นมาตรการบังคับที่เข้มงวด หรือมีบทลงโทษทางกฎหมาย
ผู้ติดเชื้อในคณะรัฐมนตรี ในวัย 50 ปีกว่า ซึ่งทำงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แต่ไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในช่วงที่เขาเริ่มมีอาการจากวันที่ 10 เม.ย. โดยเขาถูกจัดเป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ในวันที่ 16 เม.ย.
จากข้อมูลของคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่สองคนที่ทำงานกับเขาและอยู่ห่างจากเขาประมาณ 2 เมตรตอนนี้กักตัวอยู่ที่บ้าน ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี ทั้งสองคนมีการตรวจทดสอบไวรัส แต่ทางศูนย์สาธารณสุขในเมืองของเขาจะเป็นผู้ตัดสินใจตามอาการของพวกเขา.