การใช้จ่ายในจีนยังสะพัด

เมื่อวันที่ 27เม.ย. มีการเผยแพร่ผลการสำรวจจากภาคเอกชนว่า ถึงแม้ดัชนีความเชื่อมั่นในการบริโภคจะลดลงในเดือนเม.ย. หลังจากปรับตัวดีขึ้นในเดือนมี.ค. แต่ยังคงมีแนวโน้มที่สดใสในตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของจีน
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนจากสถาบันเวสต์แพค เอ็มเอ็นไอปรับลดลงเป็น 117.8 คะแนนในเดือนเม.ย. จากเดิมอยู่ที่ 118.1 คะแนน ในเดือนมี.ค. แต่ข้อมูลจากภาครัฐชี้ว่ามีการปรับตัวดีขึ้นในผลกำไรในอุตสาหกรรมของจีน
โดยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ตัวเลขคาดการณ์ของสภาพเศรษฐกิจลดลงเป็น 119.3 คะแนน ในเดือนเม.ย. จาก 122.8 คะแนนในเดือนมี.ค. ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลงเกี่ยวกับแนวโน้มของการบริหารเงินส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ในรายงานผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามยังมีความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินส่วนบุคคล เห็นได้จากตัวเลขในดัชนีการบริหารการเงินส่วนบุคคลในปัจจุบันที่ไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ 110.3 คะแนนในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นมา 1.1% จากเดือนมี.ค. และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2557เป็นต้นมา
โดยชี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เดือนก.ค. และเดือนก.พ. 2557 ตามลำดับ
นายฟิลลิป อูโกลว์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่เป็นผู้จัดทำและรวบรวมดัชนีกล่าวว่า “ถึงแม้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงในเดือนเม.ย. แต่ไม่อาจปิดบังแนวโน้มแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ได้”
ทั้งนี้ ดัชนีของเวสต์แพค จัดทำจากข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถามอย่างน้อย 1,000 คน ที่มีอายุ 18- 64 ปี ใน 30 เมืองของจีน
นายอูโกลว์ให้ความเห็นว่า “เห็นได้ชัดว่าตัวเลขที่บ่งบอกในเชิงบวกถึงการใช้จ่ายและสถานะในการซื้อสิ่งของในประเภทต่างๆ เช่น รถยนต์ ช่วยหนุนให้ยอดค้าปลีกและการใช้จ่ายของผู้บริโภคขยายตัวขึ้น”
หากจะตีความผลการสำรวจนี้ จะเห็นว่ายอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วยบรรเทาสภาพเศรษฐกิจของจีนในปัจจุบัน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งอุปสงค์ของสินค้าจีนในประเทศและต่างประเทศซบเซา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลกำไรจากบริษัทในอุตสาหกรรมจีนเพิ่มขึ้น 11.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอ้างอิงจากข้อมูลของรอยเตอร์ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ว่า กำไรจากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 561,240 ล้านหยวนในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามหลายคนตอบว่า มีความตั้งใจที่จะซื้อสินค้าและรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น นับเป็นแนวโน้มที่ดีของตัวเลขค้าปลีกที่เป็นทางการของเดือนเม.ย. โดยในรายงานผลการสำรวจชี้ว่า ผู้ถูกสำรวจหลายคนตั้งใจที่จะซื้อสินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆเพิ่มขึ้น
คาดการณ์ว่าตัวเลขการซื้อรถยนต์ในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 109.1 คะแนนในเดือนเม.ย. จากเดิมคือ 103.4 คะแนน ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. ปี 2553 เป็นต้นมา.
หมายเหตุ 1 หยวน = 5.47 บาท วันที่ 27 เม.ย. 2559