ว่างงานในสหรัฐฯ พุ่ง 6 ล้านคน 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง
วอชิงตัน – จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานในช่วงสามสัปดาห์ล่าสุดพุ่งเกิน 15 ล้านคน โดยมีผู้ยื่นขอ 6 ล้านคนเป็นสัปดาห์ที่สองต่อเนื่องกันในสัปดาห์ล่าสุด ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก
รายงานการยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานของกระทรวงแรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ส่งผลกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งตอกย้ำการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ระบุว่าจะมีคนว่างงานถึง 20 ล้านคนในเดือนเม.ย. และเศรษฐกิจจะถดถอยอย่างรุนแรง
โดยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามีงานหายไป 701,000 อัตราในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ช่วงปี 2552
รัฐบาลระบุว่ามีผู้ยื่นขอสวัสดิการ 6.606 ล้านคนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย. โดยสัปดาห์ก่อนหน้ามีผู้ยื่นขอสวัสดิการ 6.867 ล้านคน ทำให้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานทั้งหมดอยู่ที่ 15 ล้านคนนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.เป็นต้นมา
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ออกมาตรการจำนวน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้การสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นและธุรกิจเอสเอ็มอีและหนุนให้ระบบเศรษฐกิจยังคงขับเคลื่อนไปได้ โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่า เฟดจะใช้ทุกเครื่องมือเพื่อหนุนเศรษฐกิจจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้เต็มรูปแบบ
ในเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในมาตรการเยียวยาที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯคือ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือบริษัทและคนว่างงาน
แต่จากมาตรการในปัจจุบันที่เอื้อให้กับสวัสดิการคนว่างงาน นักเศรษฐศาสตร์หลายคนแสดงความกังวลว่า ธุรกิจจะจ่ายค่าแรงรายชั่วโมงต่ำที่สุด เพื่อให้พนักงานได้ประโยชน์จากเงินสวัสดิการภาครัฐ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อสัปดาห์นาน 4 เดือน
จากสวัสดิการสูงสุดที่คนว่างงานได้รับคือเฉลี่ย 385 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อคนต่อเดือนในเดือนม.ค. คำนวณแล้วจะเท่ากับ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชม. สำหรับการทำงาน 40 ชม.ต่อสัปดาห์ โดยรัฐบาลกำหนดให้ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อชม.
“ สำหรับเงินสวัสดิการ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ที่เพิ่มให้กับคนว่างงาน จำนวนเงินที่ได้จะสามารถทดแทนเงินที่แรงงานสูญไป และอาจจะมากกว่า” โจเอล นารอฟ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Naroff Economics ในฮอลแลนด์ เพนซิลวาเนียระบุ “เงินที่ได้อาจทำให้หลายคนไม่รับข้อเสนอให้กลับไปทำงาน”
จากจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงาน ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า อัตราคนว่างงานในเดือนเม.ย.สูงเกินช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ปี 2552 ที่สูงถึง 10.0% และช่วงปี 2525 ซึ่งอยู่ที่ 10.8% โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะหดตัวย่างชัดเจนในไตรมาสแรก โดยนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนมี.ค.
ปัจจุบัน ชาวอเมริกันกว่า 95% อยู่ภายใต้คำสั่งกักตัวอยู่บ้านของแต่ละรัฐ จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลกกว่า 460,000 ราย และเสียชีวิตเกิน 16,000 ราย.