ศก.จีนชะลอตัวแต่ยังมีเสถียรภาพ
เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ถึงแม้จะมีสัญญาณว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลากหลายของจีนช่วยหนุนให้เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
มีรายงานว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนอยู่ที่ 6.7% ในไตรมาสแรกที่สิ้นสุดเดือน มี.ค.ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวมากที่สุดของจีนในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2552 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ได้ยังคงเป็นไปตามความคาดการณ์ของตลาดและเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ตั้งเป้าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ระหว่าง 6.5 – 7% สำหรับปี 2559
นักวิเคราะห์เศรษฐกิจให้ความเห็นว่า ตัวเลขล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจตกต่ำของจีนในระดับที่ลึกลงในปีนี้ หรือที่เรียกกันว่าชะลอตัวอย่างรุนแรง
ภาคส่วนธุรกิจทุติยภูมิของจีน ซึ่งรวมถึงการผลิตและการก่อสร้างมีการขยายตัว 5.8% ขณะที่ภาคบริการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดด้วยตัวเลข 7.6% โดยข้อมูลด้านอื่นแสดงว่า สินเชื่อใหม่ , ยอดขายค้าปลีก, ผลผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดได้อานิสงส์จากข่าวดีที่เผยแพร่มาก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ว่า ภาคส่งออกของจีนมีการขยายตัวในเดือน มี.ค.ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนผลการสำรวจจากภาคเอกชนและภาครัฐแสดงว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโรงงานส่งสัญญาณว่ากิจกรรมภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้นในเดือนที่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า นายเช็ง ไลหยุน โฆษกของสำนักงานสถิติของจีน กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่ามีสัญญาณว่าเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนผ่านพ้นจุดตกต่ำที่สุดมาแล้ว แต่เขายังเตือนว่า ความผันผวนและความยุ่งยากในธุรกรรมทางเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างอาจฉุดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ จึงต้องใช้เวลามากกว่านี้ที่จะบอกว่าเศรษฐกิจจีนจะมีเสถียรภาพต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
โดยเขากล่าวว่า “การขยายตัวทาจงเศรษฐกิจของจีนในอนาคตจะเป็นรูปตัวแอลในระยะยาว แต่ในเวลาสั้นๆนี้อาจจะเป็นตัวยูหรือดับเบิ้ลยูได้จากความผันผวนที่เกิดขึ้น” ขณะที่นักวิเคราะห์และผู้กำหนดนโยบายมองว่า ข้อมูลชี้ให้เห็นถึงการเริ่มต้นที่ดีสำหรับปีนี้ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองจากตลาดหุ้นในเอเชียกับข่าวนี้ไม่ค่อยเห็นผลที่ชัดเจนนัก โดยดัชนีในตลาดเซี่ยงไฮ้ปรับขึ้น 0.1% และในตลาดฮ่องกงปรับขึ้น 0.3%