สหรัฐฯ ขอปชช.สวมหน้ากากออกจากบ้าน
วอชิงตัน/นิวยอร์ก (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 2 เม.ย. รัฐบาลสหรัฐฯร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการให้คำแนะนำชาวอเมริกันให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านในช่วงนี้ที่เกิดการระบาดของโควิด – 19 เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 1,169 รายในวันเดียวเป็นครั้งแรก
ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เดบอราห์ เบิร์กซ ซึ่งเป็นคณะทำงานบริหารจัดการโควิด -19 ของ ประธานาธิบดีโโนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC จะเพิ่มคำแนะนำให้หน้ากากอนามัยเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันตัวเองของประชาชน
แต่เบิร์กซระบุว่า ชาวอเมริกันเกือบทั้งหมดที่ต้องอยู่บ้าน ยกเว้นเฉพาะการออกไปทำธุระสำคัญ ไม่ควรมีความเข้าใจผิดว่า พวกเขาสามารถการป้องกันการระบาดได้อย่างเต็มรูปแบบ หากมีสิ่งที่ปกป้องใบหน้า
ประธานาธิบดีทรัมป์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวแต่เพียงว่า “ ถ้าประชาชนอยากสวมหน้ากาก ก็สวมได้ ”
จนถึงวันที่ 2 เม.ย. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 5,887 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 243,000 รายทั่วทั้ง 50 รัฐ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยทั่วโลกทะลุ 1 ล้านรายไปแล้วในวันที่ 2 เม.ย. โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 52,000 ราย จากการรายงานของสื่อรอยเตอร์
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของทำเนียบขาวคาดการณ์ว่า อาจมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโรคระบาดนี้ประมาณ 100,000 – 240,000 ราย แม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม
รัฐบาลสหรัฐฯ , CDC และกระทรวงสาธารณสุขเริ่มหวั่นไหวในประเด็นการสวมหน้ากากอนามัยนับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ โดยในช่วงแรก มีการชี้แจงว่า สำหรับคนที่มีสุขภาพดี การสวมหน้ากากไม่ใช่สิ่งจำเป็น หรือเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กและลอสแองเจลิสขอให้ประชาชนพยายามหาสิ่งของมาปกคลุมใบหน้า โดยบิล เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กชี้ให้เห็นถึงผลการศึกษาว่า ไวรัสสามารถแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใดๆได้
“ นี่เป็นเหตุผลว่า เมื่อคุณมีสิ่งที่ปกคลุมใบหน้า คุณกำลังปกป้องทุกคนรอบตัวคุณ” เดอ บลาสิโอกล่าว
โดย นายกเทศมนตรีจากพรรคเดโมแครต แนะนำให้ชาวนิวยอร์กใช้ผ้าพันคอ หรือหน้ากากที่ทำเอง เพราะหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขาดแคลนอยู่ในขณะนี้
ในนครนิวยอร์ก มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 อย่างน้อย 1,400 ราย โดยโรงพยาบาลและโรงเก็บศพต่างประสบปัญหาและต้องดิ้นรนอย่างหนักในการรักษาผู้ป่วยและเผาศพผู้เสียชีวิต
มีการใช้งานเตาเผาศพเป็นเวลายาวนานกว่าปกติและต้องเผาศพจนถึงช่วงกลางคืน เนื่องจากมีศพกองอยู่จำนวนมาก จนทำให้ทางการมองหาพื้นที่อื่นในรัฐเป็นสถานที่ฌาปนกิจศพชั่วคราว
ขณะที่ชาวอเมริกันประมาณ 90% อยู่ภายใต้มาตรการกักตัวอยู่บ้าน รัฐบาลสหรัฐฯ รายงานว่า มีแรงงานมากถึง 6.6 ล้านคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการคนว่างงานในสัปดาห์ก่อน เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์แล้ว.