ส่งออกจีนเดือนก.พ.ทรุด
ภาคส่งออกของจีนต้องเผชิญกับรายได้ที่ดิ่งลงมากที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี สร้างความกังวลด้านเศรษฐกิจให้กับจีนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่เบอร์ 2 ของโลก
โดยรายได้จากการส่งออกของจีนทรุดฮวบลงถึง 25.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าลดลงถึง 13.8% ตัวเลขที่ย่ำแย่นี้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 25 ปี สภาประชาชนแห่งชาติของจีน เพิ่งจะมีมติในกรุงปักกิ่ง ที่จะปรับลดเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2559 ลง เป็นการคาดการณ์ได้ว่า นี่จะเป็น “การต่อสู้เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ” ครั้งสำคัญของจีน
ตัวเลขการค้าเดือนก.พ.ที่ปรากฏออกมา สร้างความกังวลให้กับจีนในการพยายามดิ้นรนที่จะคงตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ ขณะที่จะมีการปฏิรูปและปรับเปลี่ยนให้ภาคบริการและการใช้จ่ายภายในประเทศมีบทบาทมากขึ้นไปพร้อมกัน
มีรายงานตัวเลขจากกรมศุลกากร ว่ารายได้จากการส่งออกของจีนทรุดลงมาอยู่ที่ 126,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4,413,500 ล้านบาท ลดลงมาถึง 25.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และน้อยกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้คือ 15% โดยตัวเลขที่ย่ำแย่นี้ เป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของจีนนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินทั่วโลกในเดือนพ.ค.ปี 2552 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ข้อมูลนี้อาจได้รับผลกระทบจากวันหยุดช่วงตรุษจีนที่ยาวนานกว่าทุกปี
ทั้งนี้ จีนมักจะถูกนักวิเคราะห์จัดให้เป็น ‘เครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก’ ดังนั้น เมื่ออุปสงค์ทั่วโลกที่มีต่อสินค้าจีนลดลง จึงเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกโดยทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ในปี 2558 จีนตั้งเป้าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ 7% แต่เศรษฐกิจโตเพียง 6.9% เท่านั้น ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 25 ปีของจีน โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเพิ่งมีการประชุมกับสภาประชาชนแห่งชาติ และมีมติปรับลดเป้าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้เป็น 6.5 -7%