หนุนโอบามาเลิกคว่ำบาตรเมียนมา
เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา 5 กลุ่มองค์กรธุรกิจการค้าในสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเมียนมา โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้รับการขานรับจากกลุ่มธุรกิจในพม่าเป็นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. หอการค้าสหรัฐอเมริกาในเมียนมา, สมาพันธ์การค้าต่างประเทศแห่งชาติ, สมาพันธ์ธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน, หอการค้าสหรัฐอเมริกาและสมาพันธ์ธุรกิจนานาชาติแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นจดหมายถึงฝ่ายบริหารของรัฐเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเมียนมา เพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมากับสหรัฐฯ
โดยในจดหมาย เหล่าสมาชิกของกลุ่มองค์กรธุรกิจในสหรัฐฯ ต่างสนับสนุนประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่ได้กระชับความสัมพันธ์กับเมียนมา รวมถึงมีการยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าจากเมียนมา ผ่อนคลายระบบการเงินและการห้ามการลงทุนการเปิดที่ทำการองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) และขยายทั้งความร่วมมือในการลงทุนต่างประเทศภาคเอกชนและให้การสนับสนุนธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก
นอกจากนี้ ในจดหมายยังมีการกล่าวถึงผลการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. ในปีที่แล้ว ซึ่งนาง อองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี เป็นผู้ชนะและกวาดที่นั่งในสภาได้เป็นส่วนใหญ่ และมีการเรียกร้องกระบวนการทางการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย
สหรัฐอเมริกาเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรเมียนมามาตั้งแต่ปี 2540 ในช่วงที่เมียนมาปกครองโดยทหาร จนมาถึงปี 2555 สหรัฐฯ จึงได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับเมียนมา หลังจากรัฐบาลทหารกึ่งพลเรือนของประธานาธิบดีเต็ง เส่งบริหารประเทศได้ 1 ปี
ขณะที่มีการผ่อนคลายมาตรการทางเศรษฐกิจในบางภาคส่วนไปบ้างแล้ว แต่ยังคงมีบริษัทและบุคคลจำนวนหนึ่งที่ยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อ Specially Designatted Nationals (SDN) หรือ ‘บัญชีดำ’ ของสหรัฐฯ ซึ่งถูกห้ามไม่ให้ประกอบธุรกิจหรือธุรกรรมทางการเงินใดๆ โดยในเดือนพ.ค.นี้ คาดการณ์ว่า จะมีการรื้อและทบทวนบัญชีรายชื่อใน SDN ใหม่
ดร.หม่อง หม่อง เลย์ รองประธานสหภาพสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา(UMFCCI) ให้ความเห็นว่า ‘บัญชีดำ’ ของสหรัฐฯ เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนในเมียนมาเขากล่าวว่า
“การทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างสหรัฐฯและเมียนมายุ่งยากมาก นักธุรกิจสหรัฐฯต้องการมาลงทุนในเมียนมาและธนาคารสหรัฐฯไม่อยากแบกรับความเสี่ยง”
ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนของสหรัฐฯ ในเมียนมายังคงต่ำอยู่ แต่แบรนด์สำคัญของสหรัฐฯ เช่น โค้ก แก๊ป เคเอฟซี ล้วนมาลงหลักปักฐานในเมียนมาได้แล้ว
นายขิ่น เชว อดีตสว.และประธานบริษัทเซย์คาบาร์กรุ๊ปให้สัมภาษณ์สื่อว่า เขาค่อนข้างมั่นใจว่าจะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐในปีนี้ หลังจากรัฐบาลพรรคNLD เข้ามาบริหารประเทศในเดือนเม.ย.นี้
ในปีที่แล้ว UMFCCI ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนและเพิกถอนรายชื่อบริษัทและบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการลงทุนของสหรัฐฯ ในเมียนมา.