เกาหลีใต้ส่งออกทรุดอีก
วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการรายงานข้อมูลว่า การส่งออกของเกาหลีใต้หดตัวลงไปถึง 1 ใน 6 ในช่วง 20 วันแรกของเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ปีนี้จะมีวันทำงานมากกว่า เพิ่มความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกกำลังขาดแรงกระตุ้น
จากข้อมูลของ กรมศุลกากร ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ในวันที่ 1-20 ก.พ. มีมูลค่ารวมทั้งหมด 22,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 775,600 ล้านบาทลดลงมาถึง 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปี 2558 ขณะที่การนำเข้าลดลง 17.4% มีมูลค่า 20,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ706,650 ล้านบาท ถึงแม้จะมีวันทำงานมากขึ้นในปีนี้ แต่ยอดส่งออกและนำเข้า ก็ยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 20%
กรมศุลกากร เผยแพร่ข้อมูลจำนวนหนึ่งบนเว็บไซต์ โดยไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นประเทศผู้ส่งออกขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาอาจจะเร็วไปที่จะบอกสถานะการค้าจากประเทศสำคัญ
เกาหลีใต้ส่งออกสินค้าถึง 1 ใน 4 ของสินค้าทั้งหมดไปยังประเทศจีน เศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวและยังผันผวน เป็นหนึ่งในความเสี่ยงสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกและนักลงทุนในช่วงนี้
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ได้เคยรายงานถึง การส่งออกที่ทรุดฮวบลงในเดือน ม.ค. เนื่องจากการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศลดลงเหลือ 18.8% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางเกาหลีใต้รายงานว่า สินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาส 4 พุ่งขึ้นแรงที่สุดในรอบเกือบ 9 ปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาสติดต่อกัน แต่โชคดีที่อัตราดอกเบี้ยยังคงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวทันทีหลังจากข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ว่า “สินเชื่อภาคครัวเรือนช่วยหนุนเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินกู้ถูกนำไปใช้ในอุปสงค์ในการสร้างบ้าน จึงช่วยกระตุ้นธุรกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกเหนือจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคตามปรกติ”
คำแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ว่า สินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาส 4 พุ่งขึ้นเป็น 11.2% มีมูลค่าสูงถึง 1.207 พันล้านล้านวอน
ทั้งนี้ การขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับตัวเลข 10.4% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ความเห็นว่า “ในปีนี้ คาดการณ์ว่า การขยายตัวของมูลค่าหนี้จะชะลอตัวลง ขณะที่การปรับปรุงคุณภาพหนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”