นายกหลี่เผยเศรษฐกิจจีนปี 58 โต 7%
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีนกล่าวว่าเศรษฐกิจของจีนในปีที่ผ่านมา ยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง จากยอดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาคการบริการที่มีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของ GDP
นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในงานพิธีเปิดธนาคาร AIIB (Asian Infrastructure Investment Bank) ที่รัฐบาลจีนสนุบสนุนอยู่ว่า เศรษฐกิของจีนในปี 2558 เติบโตประมาณ 7% จากการขายตัวของภาคการบริการที่สัดส่วนขนาดถึงครึ่งหนึ่งของ GDP (gross domestic product)
พร้อมกับระบุว่า ยอดการจ้างงานยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ และการบริโภคที่มีสัดส่วนเกือบ 60% ของเศรษฐกิจทั้งประเทศยังคงหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
ทางการจีนจะรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่ 4 ของจีน และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ทั้งปี 2558 ในวันที่ 19 ม.ค.นี้
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ (ตามโพลสำรวจของรอยเตอร์) คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปี 2558 ของจีนจะอยู่ที่ระดับ 6.9% นับเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่เติบโต 7.3% ซึ่งหากเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เศรษฐกิจของจีนในปีที่ผ่านมาจะเติบโตชะลอตัวรุนแรงมากที่สุดในรอบ 25 ปีเลยทีเดียว
นายกฯ หลี่ กล่าวด้วยว่า จีนไม่ได้ตั้งใจที่จะอ่อนค่าเงินหยวนเพื่อกระตุ้นการส่งออก และใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพมูลค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
และเพิ่มติมว่า จีนมีความสามารถเพียงพอที่จะรักษาค่าเงินหยวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพโดยพื้นฐาน เพื่อให้เกิดความสมดุล และเหมาะสม
ก่อนหน้านี้จีนอ่อนค่าเงินหยวนลงมาประมาณ 3% ในกลางเดือนส.ค.2558 ซึ่งเขย่าตลาดทั่วทั้งโลกพากันปั่นป่วน จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ตัดสินใจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ตามที่คาดการณ์ อย่างไรก็ตามค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องกว่า 1% เมื่อเริ่มต้นปี 2016