งานในสหรัฐฯเกินครึ่ง เสี่ยงจากโควิด -19
งานเกือบ 80 ล้านอัตราในสหรัฐฯกำลังมีความเสี่ยงสูง หรือเสี่ยงในระดับกลางในวันนี้ จากการวิเคราะห์ของ Moody’s Analytics เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งคิดเป็นมากกว่าครึ่งของงาจำนวน 153 ล้านอัตราในเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวม
โดยมาร์ค แซนดี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Moody’s Analytics ระบุว่า ไม่ได้หมายความว่างานทั้งหมดจะหายไป แต่มีความเป็นไปได้ที่แรงงานประมาณ 10 ล้านคนจะได้รับผลกระทบกับเงินค่าจ้าง หรือ ถูกเลย์ออฟ , อนุญาตให้ลาพัก , ลดชั่วโมงทำงาน หรือลดค่าจ้าง
จากงาน 80 ล้านอัตรา ทาง Moody’s Analytics คาดการณ์ว่างาน 27 ล้านอัตรามีความเสี่ยงสูงจากจากไวรัส โดยเฉพาะด้านคมนาคมและการเดินทาง สันทนาการและโรงแรม บริการช่วยเหลือชั่วคราวและขุดเจาะน้ำมัน อาจมี 20% ของบรรดาแรงงานเหล่านั้น คือประมาณ 5 ล้านอัตราจะได้รับผลกระทบ แซนดีกล่าว
อีก 52 ล้านอัตราถูกมองว่า กำลังเผชิญความเสี่ยงระดับกลาง โดยในส่วนนี้อยู่ในธุรกิจค้าปลีก การผลิต การก่อสร้างและการศึกษา โดยแรงงานประมาณ 5 ล้านอาจตกงาน หรือทำงานต่ำกว่าวุฒิการศึกษา
ภาวะช็อกทางเศรษฐกิจจะมาถึงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของงานในสัปดาห์หน้าถูกนับว่าอาจทำให้งาน 1 ล้านอัตราเสียหาย จากข้อมูลของเควิน ฮัสเซต อดีตประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นี่อาจร้ายแรงกว่าเดือนที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2551 ที่งานหายไปกว่า 800,000 อัตรา และอาจเป็นช่วงที่งานดิ่งมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
เพราะสหรัฐฯอยู่ในช่วงที่การจ้างงานหยุดชะงัก หลายคนที่ตกงาน จะมีปัญหาในการหางานใหม่ โดยผลสำรวจรายเดือนของ 350 ธุรกิจของ Moody’s พบว่า ในเดือนธ.ค.2562 มีการจ้างงาน 41% และผลสำรวจล่าสุดในวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานลดลงมาอยู่ที่ 12%
จนถึงตอนนี้ เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจที่ให้พนักงานลาพักยังไม่เพิ่มขึ้น จากผลสำรวจของ Moody’s คือยังอยู่ที่ 19% แต่แซนดีเชื่อว่า กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
“ สัปดาห์ที่แล้ว เป็นการหยุดจ้างงาน สัปดาห์หน้าจะเป็นการเลย์ออฟพนักงาน” เขากล่าว
ผลกระทบจากวิกฤตที่มีต่อเศรษฐกิจอย่างแท้จริงอาจเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งไม่สามารถเปิดดำเนินการได้อีกเมื่อวิกฤตจบลง
“ ผมคิดว่าบริษัทขนาดใหญ่กำลังชะลอการเลย์ออฟ พวกเขาพยายามจะก้าวข้ามไปให้ได้” แซนดีกล่าว
“ แต่ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากไม่มีเงินสดมากพอจะรับมือกับปัญหาที่โถมเข้ามาเหมือนพายุ ผมยังเห็นภาพไม่ชัดเจนว่าเราจะช่วยพวกเขาอย่างไร เป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลที่จะพยายามหาเงินสดและเครดิตให้ธุรกิจขนาดเล็ก”