‘ทรัมป์’ ตรวจไม่ติดเชื้อโควิด -19
วอชิงตัน / ชิคาโก : เมื่อวันที่ 14 มี.ค. แพทย์ประจำทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลตรวจไวรัสโควิด -19 เป็นลบ ซึ่งแปลว่าเขาไม่ติดเชื้อ
ผู้นำสหรัฐฯเข้ารับการตรวจไวรัสเนื่องจากมีการติดต่อสัมผัสใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่หลายคนในคณะทำงานของประธานาธิบดีบราซิลที่มาเข้าพบที่รีสอร์ทของเขาในรัฐฟลอริดา ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา
“ เย็นนี้ ผมได้รับการยืนยันว่าผลตรวจเป็นลบ” ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีระบุในเอกสาร “หนึ่งสัปดาห์หลังจากรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบราซิลที่มาร์-อา-ลาโก ท่านประธานาธิบดียังคงไม่มีอาการใดๆ”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ระบุว่าเขาได้มีการตรวจทดสอบไวรัสโคโรนาแล้ว ขณะที่เขาขยายคำสั่งห้ามเดินทางจากยุโรปเข้าสหรัฐฯ ให้ครอบคลุมถึงสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ด้วย จากที่เคยยกเว้นในคำสั่งแบนครั้งก่อน เพื่อหวังจะชะลอการแพร่ระบาดที่ทำให้กิจวัตรประจำวันของชาวอเมริกันต้องหยุดชะงัก
หลังจากทำเนียบขาวมีมาตรการในการตรวจอุณหภูมิร่างกายของบรรดาผู้สื่อข่าวที่จะเข้าห้องแถลงข่าว
ทรัมป์กล่าวกับสื่อว่า เขาได้รับการตรวจไวรัสเมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค.
โดยทรัมป์ระบุว่า ชาวอเมริกันควรทบทวนการเดินทางที่ไม่สำคัญ และคณะทำงานของเขาก็ได้พิจารณาห้ามเดินทางในประเทศด้วย
ดร.แอนโธนี ฟอซี ผอ.สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติระบุว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ 2,226 ราย แต่ยังไม่ถึงจุดวิกฤตของการระบาด
นักวิจารณ์โจมตีทรัมป์ว่า มุ่งเน้นแต่ตลาดหุ้นมากเกินไป ในวันที่ 13 มี.ค. 3 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งเหวลงกว่า 9% ขณะที่ในวันที่ 12 มี.ค. เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีทั้ง 3 ลดฮวบลงไปอย่างน้อย 8% และดิ่งลงไปประมาณ 20% เมื่เทียบกับช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
“ สถานการณ์จะแย่ลงอีกก่อนที่จะดีขึ้น” เจอโรม อดัมส์ ระบุในการแถลงข่าว แต่ เขาเสริมว่า “ 99% ของผู้ป่วยจะหายได้ และประชาชนจำเป็นต้องทราบเรื่องนี้”
แชด วูล์ฟ รักษาการตำแหน่ง รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิระบุว่า ทรัมป์ตัดสินใจให้มีการแบนการเดินทางจากสหราชอาณาจักรเข้าสหรัฐฯ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นที่นั่น ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวง ซึ่งให้ข้อมูลแบบไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ที่เพิ่มสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในคำสั่งแบนการเดินทางเพราะสหรัฐฯไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการจัดการกับผู้ที่เดินทางมาจากที่นั่น
“ทางฝั่งเรา ไม่มีการจัดการสอบสวนการเดินทางที่มีประสิทธิภาพพอ” เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงระบุ
โดยพลเมืองสหรัฐฯยังคงสามารถเดินทางกลับบ้านได้ และผ่านการคัดกรองจากสนามบิน
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ยังชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ให้ระงับการเดินทางไปสถานดูแลผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยสถานดูแลผู้สูงอายุในวอชิงตันเป็นสถานที่ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนามากที่สุดในสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ทางการนิวยอร์กระบุว่า หญิงวัย 82 ปีเป็นผู้เสียชีวิตจากไวรัสรายแรกของรัฐ โดยแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ ซึ่งเป็นโรคถุงลมโป่งพองอยู่ก่อนแล้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 3 มี.ค.เขากล่าวว่าในรัฐนิวยอร์กมีผู้ป่วยเพิ่มเป็น 524 ราย จนถึงตอนนี้ ทั่วประเทศสหรัฐฯ มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 50 ราย
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ผลกระทบจากไวรัสโควิด -19 ที่มีต่อธุรกิจ อาจทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจได้