โลกปิดพรมแดน / ห้ามเดินทางคุมไวรัสระบาด
(รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 14 มี.ค. หลายประเทศทั่วโลกยังคงประกาศปิดพรมแดนอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศและมาตรการกักตัว และห้ามการอยู่รวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19
หลายประเทศปิดพิพิธภัณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยว และยกเลิกการแข่งขันกีฬาเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งจนถึงตอนนี้ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 145,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 5,500 รายแล้ว
ประเทศโคลอมเบียประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับเวเนซุเอลาและห้ามนักเดินทางจากยุโรปหรือเอเชียเข้าประเทศ ขณะที่สหรัฐฯ แบนนักเดินทางจากยุโรปตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.เป็นต้นมา
ซาอุดิอาระเบียจะระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดนานสองสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. จากรายงานของสำนักข่าว SPA ไต้หวันกำหนดให้นักเดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ที่เดินทางเข้าประเทศต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน
ขณะที่นิวซีแลนด์ประกาศมาตรการกักตัวเอง 14 วัน เช่นเดียวกันกับนักเดินทางจากทุกประเทศ โดย นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดน เรียกร้องให้เรือสำราญ ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของการติดเชื้อในหลายประเทศ อย่าเข้ามาเทียบท่าที่นิวซีแลนด์จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.
“ การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้นิวซีแลนด์มีมาตรการคุมเข้มพรมแดนที่ครอบคลุมที่สุดและเข้มงวดที่สุดกว่าประเทศใดในโลก” ผู้นำนิวซีแลนด์กล่าว
นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อเพียง 6 รายและยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่นายกฯอาร์เดนระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเข้มงวดอย่างที่สุดและเราต้องเริ่มให้เร็ว ” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ออสเตรเลียประกาศห้ามประชาชนอยู่รวมกลุ่มกันในสถานที่สาธารณะเกิน 500 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ขณะที่สัปดาห์นี้ สหราชอาณาจักรประกาศห้ามการรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เป็นการยกระดับแผนรับมือวิกฤตไวรัส ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าหละหลวมเกินไป
ฟิลิปปินส์ประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหสถานในเวลากลางคืนในกรุงมะนิลา ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 12 ล้านคน และสั่งให้ห้างสรรพสินค้าปิดนาน 1 เดือน
ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายความช่วยเหลือประชาชนชาวอเมริกัน ซึ่งจะทำให้มีการตรวจทดสอบไวรัสฟรีและลางานโดยยังได้รับค่าจ้าง
คำสั่งห้ามเดินทางส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับบรรดาสายการบินและบริษัทเดินทางทั่วโลก ขณะที่ตลาดการเงินทรุดตัวดิ่งเหวทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลกระทบจากไวรัสที่มีผลกับชีวิตประจำวันยิ่งย่ำแย่ลงอีก โดยรัฐบาลเช็กสั่งปิดร้านค้าและร้านอาหารทั้งหมดตั้งแต่เช้าวันที่ 14 มี.ค. ยกเว้นเฉพาะร้านขายยา ขายอาหารสดและสถานีบริการน้ำมัน ตามหลังอิตาลีที่ปิดประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว และสั่งปิดร้านค้าทั้งหมด ยกเว้นร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ต
ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และมูแลงรูจ สถานที่แสดงโชว์คาบาเรต์ปิดให้บริการทั้งหมด ขณะที่พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียนในวอชิงตันของสหรัฐฯ เตรียมปิดเช่นกัน และโรงละครบรอดเวย์ในนิวยอร์กก็ปิด
จนถึงตอนนี้มี 8 ประเทศในยุโรปที่ประกาศปิดประเทศ /ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือกักบริเวณแล้วคือ อิตาลี เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ ฮังการี เช็ก สโลวาเกีย และลิทัวเนีย
มีการยกเลิก หรือเลื่อนการแข่งขันกีฬานัดสำคัญในหลายประเทศ แต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในปีนี้จะจัดที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าต่อ จากการยืนยันของคณะกรรมการผู้จัดงานในกรุงโตเกียว.