อิตาลีปิดเมืองเพิ่ม / รับแพทย์เกษียณช่วยสู้ไวรัส
โรม : เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ประชาชนในอิตาลีหลายล้านคนถูกกักบริเวณทางตอนเหนือของอิตาลี เนื่องจากรัฐบาลยกระดับมาตรการที่เข้มงวดในความพยายามที่จะควบคุมโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก
โดยนายกรัฐมนตรีจูเซปเป กอนเตประกาศในช่วงเช้าว่าจะมีมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสที่เข้มงวดขึ้น ด้วยการปิดแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดและมีประชากรมากที่สุด กฎใหม่นี้ระบุไม่ให้พลเมืองเข้าหรือออกแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งมีคนอาศัยอยู่ 10 ล้านคน รวมทั้งอีกสิบกว่าจังหวัดใน 4 แคว้นจาก 19แคว้นของอิตาลี
โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองคือโมเดนา, ปาร์มา , ปิอาเซนซา ,เรจจิโอ เอมิเลีย และรีมินีในแคว้นเอมิเลีย-โรมันยา – เวนิเซ, ปาดัว และเทรวีโซ ในแคว้นเวเนโต อัสตีและอเลสซานเดียในปิเอด์มองท์ และเปซาโรและอูร์บิโรในแคว้นมาร์เช
มีการปิดพิพิธภัณฑ์ ศูนย์วัฒนธรรม โรงภาพยนตร์ โรงละคร ฟิตเนส ผับและไนท์คลับในพื้นที่เป้าหมาย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.เป็นต้นไป ร้านอาหารและคาเฟ่เปิดได้ แต่ลูกค้าต้องนั่งห่างกัน 1 เมตร
มีการปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในแคว้นลอมบาร์เดียและจังหวัดทั้งหมดจนถึงวันที่ 3 เม.ย.เป็นอย่างน้อย ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลประกาศปิดโรงเรียนทั่วประเทศจนถึงวันที่ 15 มี.ค.
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมถึงวันที่ 7 มี.ค.ในอิตาลีอยู่ที่ 5,883 ราย นับเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสมากที่สุดในยุโรป ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 36 รายทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 233 รายแล้ว นับเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนอกแผ่นดินจีน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 มี.ค. อิตาลีเริ่มรับสมัครแพทย์ที่เกษียณอายุไปแล้วให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขอีกครั้ง โดยจำนวนแพทย์ที่ต้องการเพิ่มคือ 20,000 ราย เพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสที่ยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
โรคระบาดโควิด-19 ทำให้สถานีรถไฟและสนามบินของอิตาลีว่างเปล่าไร้ผู้คน และทำให้ย่านหรูของกรุงโรมกลายเป็นเมืองร้าง ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งปิดในคืนวันที่ 6 มี.ค. หรือบางแห่งที่เปิดก็มีแต่โต๊ะว่าง พนักงานไม่มีอะไรทำนอกจากจับกลุ่มคุยกันเอง
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดวูบส่งผลกระทบรุนแรงกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอิตาลี และก่อให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
แต่ที่รัฐบาลกังวลมากที่สุดคือการติดเชื้อของโควิด-19 ที่มีการควบคุมในพื้นที่ทางเหนือของประเทศซึ่ง ประชากรมีฐานะร่ำรวยกว่า จะเริ่มแพร่ระบาดลงมาทางใต้ซึ่งประชากรมีฐานะยากจนกว่าและมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. องค์การอนามัยโลกสรุปสถานการณ์ในอิตาลีด้วยการแนะนำให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาด
ทั้งนี้ รัฐบาลระบุว่า การรับสมัครแพทย์เกษียณอายุจะช่วยเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์เป็นสองเท่าในส่วนระบบทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อ นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มเตียงในแผนก ICU จาก 5,000 เตียงเป็น 7.500 เตียงในอีกไม่กี่วันนี้
ขณะที่นครรัฐวาติกันก็พยายามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในเมืองที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุด้วย
มีการรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในคลินิกแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค. และยังรอผลตรวจทดสอบผู้ต้องสงสัยอีกรายหลังจากไปร่วมในงานอีเวนท์ที่ทางวาติกันจัดเมื่อเดือนก.พ. โดยการประชุมครั้งนี้ ยังมีแบรด สมิธ ประธาน บ.ไมโครซอฟท์ และเดวิด ซาสโซลี ประธานสภายุโรปเข้าร่วมด้วย
ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเองไม่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะพระองค์ทรงมีอาการหวัดนานกว่าสัปดาห์แล้ว ทางสื่อคาดการณ์ว่า พระสันตะปาปาจะทรงนำสวดภาวนาผ่านวีดีโอลิงค์เป็นครั้งแรกในช่วงบ่ายของวันที่ 8 มี.ค. โดยทางวาติกันระบุเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ว่า กำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนหมายกำหนดการของพระองค์เพื่อหลีกเลี่ยงโรคระบาด.