จีดีพีอินเดียเฟื่องรับเศรษฐกิจโต

มีการเปิดเผยถึงตัวเลขเศรษฐกิจของอินเดียที่เติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ก่อนที่จะมีการทบทวนอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายของปีจากนายรากุราม ราจัน ผู้ว่าการธนาคารกลางของอินเดียในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
สำนักสถิติกลางรายงานในกรุงนิวเดลีเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี สูงถึง 7.4% ในไตรมาส (ก.ค.- ก.ย.) หลังจากไตรมาสก่อนหน้าขยายตัว 7% โดยค่าเฉลี่ยจีดีพีจากการคาดการณ์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กสำหรับอินเดียคือ 7.3% ในขณะที่จีดีพีของจีนในไตรมาสนี้คือ 6.9% รัสเซียหดตัวลงมาเหลือ 4.1% และคาดการณ์ว่าบราซิลจะลดเหลือ 4.2%
ตัวเลขจีดีพีของอินเดียที่เติบโตสูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางของอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หลังจากได้ลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา นับเป็นการยืดเวลาให้กับ นายนเรนทรา โมดิ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ในการผลักดันการผ่านร่างกฎหมายเศรษฐกิจที่สำคัญในสภา ตลาดหุ้น และเงินของอินเดียยังเป็นที่ต้องการในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้นักลงทุนจะเริ่มหมดความอดทนกับเวลาที่ใช้ในการปฏิรูป
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่า “มีสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและตัวเลขการผลิตก็เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง”
ร่างกฎหมายของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิที่ค้างอยู่ในสภา คือภาษีการขายแห่งชาติ โดยกฎหมายนี้ มุ่งหวังที่จะทำให้โครงสร้างภาษีเก่าของอินเดียลดความยุ่งยากลง และจะผลักดันให้เกิดการค้าตลาดเดียวขึ้นเป็นครั้งแรกท่ามกลางประชากรที่มากถึง 1,300 ล้านคนในอินเดีย
ภาษีการค้า และบริการช่วยผลักดันรายได้ให้สูงขึ้นในอินเดีย ในขณะที่การเสนอขึ้นเงินเดือนให้คณะรัฐบาลกลับทำให้เป้าหมายของนายกฯโมดิที่ต้องการจะลดการขาดดุล มีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามเป้ามากยิ่งขึ้น
นายอินทรานี ปัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่า “การขึ้นเงินเดือนของรัฐบาลนี้อาจทำให้แผนการของรัฐบาลที่จะแก้ไขการขาดดุลงบประมาณต้องสะดุด และกลายเป็นรายจ่ายลงทุนที่มากขึ้น” เรื่องนี้ทำให้แผนการของนายกฯโมดิที่หวังพึ่งพาการลงทุนสาธารณะ ต้องเริ่มเดินหน้าเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในขณะที่ภาคเอกชนก็ต้องต่อสู้กับหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้มูลค่ารวม (ซึ่งเป็นส่วนประกอบของจีดีพี ที่ถูกผู้ว่าธนาคารกลางจับตาอย่างใกล้ชิด) เพิ่มสูงขึ้น 7.4% ในเดือนเม.ย.- ก.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจัดว่าเป็นไปตามคาดการณ์
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตสูงขึ้น 9.3% ในไตรมาสนี้ บริการด้านการเงินอยู่ที่ 9.7% การค้า และธุรกิจโรงแรมเติบโต 10.6% การผลิตไฟฟ้า และก๊าซของอินเดียเพิ่มสูงขึ้น 6.7% ขณะที่ธุรกิจการก่อสร้างขยายตัว 2.6%