ญี่ปุ่นขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและจะทยอยใช้มาตรการอื่นๆเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แต่นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์มองว่า ไม่ได้เป็นการปฏิรูปอย่างจริงจังเพื่อหยุดยั้งเศรษฐกิจที่ซบเซาในทศวรรษที่ผ่านมา
ถ้าเป็นไปตามบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น จะจ่ายเงินสมทบให้กับประชาชนที่ไม่มีเงินบำนาญ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการบริโภค
หนังสือพิมพ์นิกเคอิรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก 3% แต่ในฉบับร่างของแผนนี้ไม่ได้ระบุถึงตัวเลขที่ชัดเจน และนักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีมาตรการอื่นๆอีกเพื่อหนุนให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคืองานจำเป็นเร่งด่วนของผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจ หากญี่ปุ่นสนใจจะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของความต้องการภายในประเทศ และต้องการดึงให้เศรษฐกิจหลุดออกจากภาวะเงินฝืดที่มีมาต่อเนื่องถึง 15 ปี
อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์บางคนอาจดูแคลนแผนการนี้ เพราะรัฐบาลจะลงแรงไม่มากพอที่จะจัดการปัญหาของตลาดแรงงานที่เข้มงวดของญี่ปุ่น และจำนวนแรงงานที่ลดลง
นายมาร์เซล ธีเลียนท์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวญี่ปุ่นจากบริษัทแคปปิตอล อิโคโนมิกส์ในสิงคโปร์กล่าวว่า “ดูเหมือนเป็นการกระตุ้นระยะสั้น จริงๆ แล้วญี่ปุ่นควรต้องมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างมากกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ” เขากล่าวต่อว่า “เราอาจจะได้ตัวเลขการเติบโตที่พุ่งทะยานใน 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า แต่จะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว”
เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้ร่วงลงมาสู่ภาวะชะลอตัวถึง 2 ครั้งนับตั้งแต่นายชินโซ อาเบะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2555 และรัฐบาลอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่า จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ด้วยมาตรการหลายขั้นตอนภายในอาทิตย์นี้
ค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยของญี่ปุ่นอยู่ที่ 780 เยน ( 6.33 ดอลลาน์สหรัฐฯ ) ต่อ 1 ชั่วโมงในปีงบประมาณที่แล้ว ดังนั้นการปรับขึ้นอีก 3% ก็ไม่ได้มากไปกว่าราคาของราเมง 1 ชาม นับเป็นภาพลวงตาของผู้กำหนดนโยบาย ในการกระตุ้นการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทำให้อัตราค่าแรงของญี่ปุ่นสูงกว่าประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาอยู่เล็กน้อย สหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้มีการปรับขึ้นมากกว่านี้
ในแผนการฉบับร่างมีอยู่ว่า รัฐบาลจะต้องผ่อนคลายกฎระเบียบลง เพื่อช่วยรายจ่ายฝ่ายทุนให้กับบริษัทขนาดเล็ก และกำหนดกรอบเวลาในการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ต่ำกว่า 30% เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รัฐบาลได้ให้คำมั่นที่จะลดภาษีนิติบุคคลลงไปอยู่ที่ 31% ในปีงบประมาณหน้า แต่ผู้ประกอบการต่างเรียกร้องให้ลดลงมากกว่านี้
นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เสนอแผนการฉบับร่างนี้ในการประชุมของฝ่ายที่ปรึกษาของรัฐบาลเมื่อวันที่ 24 พ.ย. โดยรัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ จะต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย.นี้