ส่งออกญี่ปุ่นลดลงครั้งแรกใน 14 เดือน
ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนต.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากก่อนหน้านี้รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 เข้าสู่ภาวะถดถอยมาแล้ว
กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นรายงาน ยอดการส่งออกในเดือนต.ค. ลดลง 2.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
อย่างไรก็ตามยอดการส่งออกที่ลดลงดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้
ในขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 13.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 8.6% (ตามโพลสำรวจนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์)
การลดลงดังกล่าวของยอดการส่งออกของญี่ปุ่น ยิ่งสะท้อนสัญญาณถึงความ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่น อันเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สามของโลกอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางการญี่ปุ่นเพิ่งจะรายงานอัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสที่สาม หดตัวลง 0.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่หดตัว 0.7% ส่งผลให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
รายงานของกระทรวงการคลัง ระบุว่า ยอดการส่งออกไปจีนในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ลดลงถึง 3.6% โดยยอดการส่งออกไปจีนมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนกว่า 18% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของญี่ปุ่น
ขณะที่ยอดการส่งออกไปบราซิล ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีภาวะเศรษฐกิจที่ร้อนแรงมากที่สุดก่อนหน้า กลับกลายเป็นชะลอตัวลงอย่างแรงในขณะนี้ ส่งผลให้ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นไปบราซิลเดือนต.ค. ลดลง 16.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า