ป้ามหาภัย / ลัทธินอกรีตทำเกาหลีใต้ติดเชื้อพุ่ง
คุณป้าผู้แพร่เชื้อโควิด-19 กระจายไปทั่ว และโบสถ์ของลัทธินอกรีตกลายเป็นต้นตอการระบาดของไวรัสในเกาหลีใต้ในตอนนี้ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งถึง 433 ราย
จนถึงตอนนี้ มีผู้ป่วย 231 รายที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์ชินชอนจิในเมืองแทกู แต่กระทรวงสาธารณสุขเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากขณะนี้ มีสมาชิกโบสถ์กว่า 1,200 คนที่มีอาการเหมือนคนเป็นหวัด
ทางการเกาหลีใต้มีมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันไวรัสไม่ให้แพร่ระบาดมากขึ้น โดยควอนยังจิน นายกเทศมนตรีเมืองแทกูขอให้ประชาชน 2.5 ล้านคนอยู่แต่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากและทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน
“เกาหลีไม่ได้สู้กับไวรัสโคโรนา แต่สู้กับไวรัสชินชอนจิในแทกู” ชาวเน็ตรายหนึ่งชื่อเลสลีคอมเมนต์บนเว็บ Daum และมีคนกดไลค์กว่า 4 หมื่นครั้ง
บรรดาแพทย์พยายามหาคำตอบว่า หญิงวัย 61 ปี ซึ่งผู้ป่วยรายแรกในเมืองแทกู ติดเชื้อโควิด-19 มาได้อย่างไรทั้งที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และไม่มีการติดต่อกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้
เธอเป็นผู้ป่วยรายที่ 31 ของเกาหลีใต้ โดยเธอเป็นสมาชิกโบสถ์ที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสในวันที่ 18 ก.พ. หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในแทกูพุ่งทะยาน และทางการตราหน้าเธอว่าเป็น “จอมแพร่เชื้อ”
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตเรียกเธอว่า ‘ป้ามหาภัย’ เพราะเธอปฏิเสธถึง 2 รอบไม่ยอมตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 แม้จะมีอาการบ่งชี้ทั้งเจ็บคอและมีไข้ และยังคงไปร่วมพิธีในโบสถ์ต่ออีกสองครั้ง แม้อาการจะแย่ลง เธอยังเดินทางไปหลายสถานที่ตามใจชอบ แม้เธอจะรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 10 วันจากอุบัติเหตุรถยนต์
ต่อมา ผู้ป่วยรายนี้ออกจากโรงพยาบาลไปกินอาหารกลางวันกับเพื่อนที่ร้านอาหารบุฟเฟต์ และใช้เวลาอยู่นานในสปาที่เมืองชองโด เมืองติดกันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่โรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเธอโต้เถียงอยู่นานเป็นชั่วโมงกว่าจะยอมให้แพทย์ตรวจการติดเชื้อไวรัส จากรายงานของทางการ
ลัทธิชินชอนจิ ก่อตั้งโดยอีมันฮี มี 12 สาขาในเกาหลีใต้และอ้างว่ามีผู้ศรัทธาเป็นสมาชิกประมาณ 2 แสนคน โดยในปีที่แล้ว ได้มีการขยายสาขาไปที่เมืองอู่ฮั่น เมืองศูนย์กลางของโรคระบาดในจีนด้วย
โดยทางโบสถ์ระบุบนเว็บไซต์ว่า สาขาที่อู่ฮั่นมีสมาชิกมากถึง 103,764 คนในเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น
ชินชอนจิ ซึ่งมีความหมายว่า ‘สวรรค์และโลกใหม่’ ในภาษาเกาหลี ถูกมองว่าเป็นกลุ่มลัทธินอกรีตของศาสนาคริสต์
อดีตสมาชิกโบสถ์ให้ข้อมูลว่า ในการทำพิธีกรรมในโบสถ์ เขาเคยต้องคุกเข่าบนเบาะที่วางอยู่บนพื้นห่างกัน 10 ซม.และจับมือกับคนรอบตัวเขาในระหว่างทำพิธีนานถึง 2 ชั่วโมง โดยทุกคนนำอาหารใส่กล่องมาและแบ่งกันกินกับคนอื่น ในระหว่างวันธรรมดา จะมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
ขณะที่อดีตสมาชิกโบสถ์อีกคนระบุว่า พวกเขาถูกสอนให้ร้องเพลงสวดเสียงดัง และห้ามสวมอะไรบนใบหน้า ทั้งแว่นตาและหน้ากาก นอกจากนี้ ยังถูกสอนไม่ให้กลัวโรคภัยไข้เจ็บด้วย
โดยผู้ก่อตั้งลัทธิระบุว่า ไวรัสโคโรนา “เป็นการกระทำของปีศาจ ที่เห็นว่าชินชอนจิเติบโตอย่างรวดเร็ว และอยากทำลายความก้าวหน้าของเรา” เขาส่งข้อความถึงสมาชิกโบสถ์ผ่านแอปพลิเคชั่นว่า สมาชิกควรหลีกเลี่ยงการชุมนุมกัน แต่ยังคงมีการสื่อสารกันด้านการศึกษา
โบสถ์ชินชอนจิระงับการทำพิธีและการชุมนุมกันทั่วประเทศ โดยมีการปิดสาขาในแทกู และทางการขอรายชื่อสมาชิก 9,300 คนที่มาเข้าร่วมพิธีเป็นประจำกับทางโบสถ์
จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 229 รายเมื่อวันที่ 22 ก.พ. มี 95 รายอยู่ในโรงพยาบาลแทนัมในเมืองชองโด ซึ่งห่างจากเมืองแทกูไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 27 กม. โดยมี 9 รายเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล
ยังไม่มีความชัดเจนว่าไวรัสเริ่มระบาดในโรงพยาบาลได้อย่างไร แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า สมาชิกลัทธิชินชอนจิเข้าร่วมพิธีศพของพี่ชายผู้ก่อตั้งที่โรงพยาบาลในวันที่ 31 ม.ค. – 2 ก.พ.
ทางสาธารณสุขยังพบว่า ผู้ป่วยใหม่ 9 รายอยู่ในกลุ่มนักแสวงบุญแคธอลิก 77 คนที่ไปเยือนอิสราเอลเมื่อวันที่ 8 ก.พ. – 16 ก.พ.ด้วย