ดับรายแรกจากไวรัสในเกาหลีใต้ ติดเชื้อพุ่ง 104
โซล – เมื่อวันที่ 20 ก.พ. เกาหลีใต้รายงานผู้เสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเกิน 100 รายแล้ว โดยเกือบครึ่งมาจากกลุ่มคนที่ไปโบสถ์เดียวกัน
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้นายกเทศมนตรีเมืองแดกู (ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ และมีประชากรกว่า 2.5 ล้านคน) แนะนำประชาชนให้อยู่แต่ภายในบ้าน และผู้บัญชาการที่ฐานทัพของสหรัฐฯ ในพื้นที่สั่งห้ามเข้าฐานทัพ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (KCDC) ระบุว่า ชายที่เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยที่รักษาตัวมานานในเขตชองโด และอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ 15 คนที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้ป่วย 2 รายในวอร์ดผู้ป่วยจิตเวชถูกพบว่าติดเชื้อไวรัสเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ทำให้ทางการเริ่มตรวจคัดกรองผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคน
โดยชายที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.พ. มีอาการปอดอักเสบ และมีการยืนยันสถานะของเขาหลังเสียชีวิตแล้ว
ทาง KCDC ประกาศว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 51 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 104 ราย
จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีกว่า 40 รายอยู่ในชุมชนเมืองแดกู ซึ่งมีโบสถ์ชินชอนจีเป็นศูน์กลาง และถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งแพร่ระบาดของไวรัส
ทางการระบุว่า ชายคนหนึ่งในวัย 60 ปีกว่าในจ.คยองซังเหนือ ซึ่งสื่อยอนฮัปรายงานว่ารักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 20 ปี มีผลตรวจไวรัสเป็นบวกหลังจากเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.พ.จากอาการปอดอักเสบ
สื่อในประเทศรายงานว่า ในชุมชนหนึ่งที่แดกู หญิงวัย 61 ปี ผู้ติดเชื้อคนแรกเริ่มมีไข้เมื่อวันที่ 10 ก.พ.แต่เธอปฏิเสธที่จะตรวจคัดกรองไวรัสถึง 2 ครั้งโดยอ้างเหตุผลว่าเธอไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ เธอเข้าโบสถ์ไปร่วมพิธีอย่างน้อย 4 ครั้งก่อนที่จะพบว่าติดเชื้อ
จนถึงตอนนี้ มีสมาชิกชุมชนที่ไปโบสถ์อย่างน้อย 47 รายที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ โดยเชื่อว่าหลายรายติดเชื้อมาจากหญิงคนแรก
โดยโบสถ์ชินชอนจีอ้างว่า ผู้ก่อตั้งคือ อีมันฮี ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูและจะนำพาคน 144,000 คนไปสวรรค์พร้อมกับเขาในวันพิพากษา
เทศบาลเมืองแดกูระบุว่า ขอให้สมาชิกชุมชนโบสถ์ชินชอนจีประมาณ 1,001 คนที่เชื่อว่าได้เข้าร่วมพิธีในโบสถ์กับหญิงที่ติดเชื้อกักบริเวณตัวเองในบ้าน
มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 64 รายในเมืองนี้และจ.คยองซังเหนือ และควอนยังจิน นายกเทศมนตรีเมืองแดกูกล่าวกับพลเมืองว่า “ เริ่มตั้งแต่วันนี้ โปรดงดออกจากบ้านเท่าที่จะทำได้”
ฐานทัพสหรัฐฯในเมือง ซึ่งมีทหาร พลเมืองและสมาชิกครอบครัวที่อาศัยและทำงานในนี้ประมาณ 1 หมื่นนาย สั่งห้ามไม่ให้มีการเข้า และสั่งให้ทหารอเมริกันซึ่งเคยเข้าร่วมพิธีในโบสถ์ชินชอนจีกักบริเวณตัวเอง
“ ให้เดินทางเข้าและรอบๆเมืองแดกูได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ” ฐานทัพโพสต์บนเฟซบุ๊ก
“โปรดหลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะและขนส่งมวลชน รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร รถไฟใต้ดิน และสถานที่ผู้คนแออัด” โบสถ์ชินชอนจีประกาศปิดทำการทั่วประเทศ
“เราเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากประเด็นที่หนึ่งในสมาชิกของเรา ซึ่งในตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นหวัด และเพราะเธอไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ทำให้หลายคนในโบสถ์ติดเชื้อ และก่อให้เกิดความกังวลกับชุมชน” แถลงการณ์ของโบสถ์ระบุ