วีซ่าควัก 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ซื้อวีซ่ายุโรป
วีซ่าโลกควบรวมกิจการวีซ่ายุโรป ส่งผลให้ธนาคารในยุโรปนับพันแห่งที่ถือหุ้นได้รับเงินก้อนโตจากการขายวีซ่ายุโรป มูลค่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังแยกทางในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 8 ปี
บริษัท วีซ่า ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ของโลก ได้ตัดสินใจที่จะซื้อกิจการบริษัท วีซ่ายุโรป ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการควบรวมกิจการเข้าด้วยกันอีกครั้ง หลังจากแยกกันดำเนินธุรกิจมานานกว่า 8 ปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมา วีซ่า และวีซ่ายุโรป ดำเนินธุรกิจด้วยกันจนกระทั่งปี 2550 วีซ่าได้แยกมาบริหารงานเองอย่างอิสระ หลังจากมีการเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะเป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2551 โดยมีธนาคารและสถาบันทางการเงินนับพันแห่งในยุโรป เป็นผู้ถือหุ้นและบริหารกิจการวีซ่ายุโรป ซึ่งการขายวีซ่ายุโรปในครั้งนี้ ทำให้เหล่าบรรดาธนาคารที่ถือหุ้นอยู่ได้รับเงินก้อนโตไปด้วย
ธนาคารบาร์คเลย์ส (BCS) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือครองหุ้นในวีซ่ายุโรปกล่าวว่า มีการคาดการณ์ถึงผลกำไรสุทธิสูงถึง 400 ล้านยูโร (620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการตกลงทางธุรกิจนี้ สำหรับการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะทำให้มีจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่ามากถึง 500 ล้านบัญชี
ก่อนหน้านี้ วีซ่ายุโรปรายงานถึงผลการดำเนินงานว่า มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัตรเครดิตกว่า 18,000 ล้านครั้ง มีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้วีซ่ายังรายงานว่า การตกลงทางธุรกิจครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ในกลางปีหน้า หลังจากผ่านความเห็นชอบของผู้วางระบบทั้งหมด สำหรับผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดที่มีรายได้สุทธิเพิ่มสูงขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลัก และสัดส่วนหุ้นจากการซื้อคืนกิจการที่มีมูลค่าถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
