ยอดเสียชีวิตไวรัสพุ่ง สถานการณ์วิกฤตขึ้น
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 13 ก.พ. มณฑลหูเป่ยในจีนซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส COVID-19 มีรายงานการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ชี้ให้เห็นว่าจีนและโลกกำลังเผชิญวิกฤตที่หนักหนาขึ้น
สาธารณสุขมณฑลหูเป่ยระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 242 รายจากไวรัสเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ซึ่งเป็นอัตรารายวันที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งแรกของไวรัสในเดือนธ.ค. ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1,367 ราย เพิ่มขึ้นถึง 254 รายจากวันก่อนหน้า
จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเกิดขึ้นหลังจากตลาดหุ้นได้แรงหนุนจากข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า จีนเริ่มรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ทำให้ที่ปรึกษาการแพทย์อาวุโสของจีนชี้ว่า การระบาดจะสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ หูเป่ยเช็คตัวเลขการติดเชื้อโดยการทดสอบ RNA ซึ่งใช้เวลาหลายวันในการประมวลผล แต่ได้เริ่มใช้ CT สแกนที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งเผยการติดเชื้อที่ปอด เพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสและมีการกักกันโรคได้เร็วขึ้น
ส่งผลทำให้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 14,840 รายในมณฑลหูเป่ยเมื่อวันที่ 13 ก.พ. จากตัวเลขเดิมคือผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,015 ทั่วประเทศในวันก่อนหน้านี้ ทำให้มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสเกิน 60,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจีน
โดยทางการระบุว่า ระบบตรวจสอบผู้ติดเชื้อใหม่ใช้เฉพาะในมณฑลหูเป่ยเท่านั้น
การระบาดของไวรัส COVID-19 ในตลาดขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลจีนประสบในรอบหลายปี และทำให้มีการกล่าวโทษความผิดไปที่ผู้บริหารท้องถิ่น
สื่อภาครัฐรายงานว่า สองผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ เจียงเจ้าเหลียง ถูกปลดจากตำแหน่งคณะกรรมาธิการมณฑลหูเป่ย และหม่ากัวเฉียง ถูกปลดจากตำแหน่ง ผู้บริหารพรรคในเทศบาลนครอู่ฮั่น
ไม่มีการอธิบายเหตุผลในการสั่งปลด แต่ทั้งสองคนเป็นผู้บริหารพรรคคอมมิวนิสต์ในตำแหน่งสูงที่สุดที่ถูกปลดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัส
“เป็นธรรมเนียมมานานที่จะต้องมีการกล่าวโทษผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขานรับกับความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น และไม่ให้มีผลกระทบต่อไปถึงผู้นำสูงสุด” วิลลี แลม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนที่มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงให้ความเห็น
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนคงที่ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่า การระบาดชะลอตัวลง
นักวิทย่าศาสตร์จีนกำลังเร่งทดสอบยาต้านไวรัส 2 ตัว และต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์สำหรับการทดลองในคลินิก แต่ในส่วนวัคซีนต้องใช้เวลาอีก 18 เดือน
หลายสายการบินระงับเที่ยวบินไปจีน ขณะที่หลายประเทศแบน หรือกักตัวนักเดินทางที่มาจากจีน ทำให้ธุรกิจชะงักงัน และส่งผลทำให้มีการเลื่อนการประชุมและการเเข่งขันกีฬาแมตช์สำคัญออกไปเป็นจำนวนมาก.