WHO ตั้งชื่อทางการไวรัสโคโรนา ‘Covid -19’
กวางโจว/เจนีวา (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ปรึกษาทางการแพทย์อาวุโสของจีนระบุว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย. แต่ยอดเสียชีวิตพุ่งเกิน 1,000 รายแล้วและองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า ไวรัสนี้เป็นภัยที่ร้ายแรงกว่าการก่อการร้าย
โลกต้อง “ตื่นและตระหนักว่าไวรัสนี้เป็นศัตรูเบอร์ 1 ของประชาชน” นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเสริมว่าจะมีวัคซีนเข็มแรกในอีก 18 เดือนหน้า
ตอนนี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Covid-19
หลังจากไวรัสระบาดนับเดือน บริษัทของจีนต้องพยายามกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังช่วงวันหยุดในเทศกาลตรุษจีนที่ขยายเวลานานกว่าปกติ ธุรกิจหลายร้อยแห่งระบุว่า ต้องการสิเนเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
หลายบริษัทเริ่มปลดพนักงานออก แม้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะให้ความมั่นใจว่าจะควบคุมการระบาดได้ ขณะที่ซัพพลายเชนของบริษัททั่วโลก ตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ไปจนถึงผู้ผลิตสมาร์ทโฟนถูกกระทบอย่างหนัก
ดร.จงหนานชาน ที่ปรึกษาด้านการแพทย์คนสำคัญในสถานการณ์การระบาดนี้ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงในหลายมณฑล และคาดการณ์ว่าการระบาดจะพีคสุดในเดือนนี้
“ ผมหวังว่าการระบาดจะหยุดลงในเดือนเม.ย.” ดร.จง ในวัย 83 ปี นักระบาดวิทยาที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการระบาดรุนแรงของโรค SARS ในปี 2546 กล่าวกับสื่อรอยเตอร์
จนถึงวันที่ 11 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้ถึง 1,110 รายแล้วในจีน และมีผู้ติดเชื้อกว่า 42,700 ราย
มีเพียง 319 รายที่มีการยืนยันว่าติดเชื้อในอีก 24 ประเทศนอกจีน โดยมีผู้เสียชีวิต 2 รายในฟิลิปปินส์และฮ่องกง
ตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งได้รับผลกระทบเนื่องจากไวรัสโคโรนาส่งผลต่อเศรษฐกิจของจีน ปรับขึ้นทำนิวไฮหลังความเห็นของดร.จง
จากสถิติในจีนชี้ว่า มีประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสใหม่ประมาณ 2% ที่เสียชีวิต และหลายคนมีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว หรือเป็นผู้สูงอายุ
ขณะที่ดร.ทีโดรสจาก WHO มีท่าทีกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา
“พูดตามตรง ไวรัสมีอิทธิพลมากในด้านการเมือง สังคมและเศรษฐกิจมากกว่าการก่อการร้าย เป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดที่คุณจะคาดคิดได้”
ผลกระทบจากการควบคุมการเดินทาง การปิดเมือง และการระงับการผลิตส่งผลกระทบมากขึ้นกับเศรษฐกิจของจีน
ดร.Anne Schuchat เจ้าหน้าที่จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า เธอหวังว่าชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่อพยพออกมาจากเมืองอู่ฮั่นสามารถออกจากสถานกักตัวได้ในวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา