อดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกจับกุมตัว
อดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเยแห่งเกาหลีใต้ถูกจับกุมตัวไปคุมขังในข้อหาทุจริตฉ้อฉลที่เป็นข่าวฉาวจนทำให้เธอต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
อดีตผู้นำประเทศวัย 65 ปีถูกนำตัวไปที่ทัณฑสถานทางใต้ของกรุงโซล หลังจากศาลมีคำสั่งอนุมัติให้ออกหมายจับเธอ
โดยเธอถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้ น.ส.ชเวซุนซิล เพื่อนสนิทของเธอเรียกรับเงินจากหลายบริษัทชั้นนำ รวมถึงซัมซุง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง
อดีตประธานาธิบดีพัค ซึ่งเพิ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยืนตามมติของสภาให้ถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งในเดือนมี.ค.นี้ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ เธอกลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุมตัวในข้อหากระทำการผิดกฎหมาย อ้างอิงจากการรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป
ศาลแขวงกลางในกรุงโซลอนุมัติออกหมายจับเพื่อให้มีการคุมตัวเธอไว้ก่อนที่จะถูกสอบสวนในข้อหาเรียกรับสินบน ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ ขู่เข็ญ และทำให้ความลับของรัฐบาลรั่วไหล
“ เป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลและจำเป็นในการจับกุม เนื่องจากต้องมีการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรมและมีความเสี่ยงที่หลักฐานของคดีจะถูกทำลาย ” อ้างอิงจากแถลงการณ์ของศาล
มีการถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ที่แสดงให้เห็นภาพรถยนต์ซีดานสีดำที่นำตัวเธอที่รออยู่ที่สถานสำนักงานอัยการไปที่สถานกักกัน ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่ก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนเธอประมาณ 50 คนยืนโบกธงชาติเกาหลีใต้เพื่อเป็นการต้อนรับและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเธอ อ้างอิงจากการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
ทั้งนี้ อัยการมีอำนาจในการควบคุมตัวเธอไว้ได้นาน 20 วัน ก่อนที่จะมีการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ และหากกระบวนการในศาลพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นผู้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง เธอจะต้องถูกจำคุกนานถึง 10 ปี
อดีตผู้นำเกาหลีใต้ต้องหลุดจากตำแหน่ง หลังจากในเดือนมี.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายืนตามมติของสภา ที่มีมติให้ถอดถอนเธอเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
น.ส.ชเวซุนซิล เพื่อนสนิทของเธอถูกกล่าวหาว่า ใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่มีกับอดีตผู้นำเพื่อกดดันให้บริษัทชั้นนำมอบเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปแบบของเงินบริจาคให้กับมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่เธอบริหารจัดการอยู่
ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีพัคถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวกับเรื่องนี้ และยินยอมให้น.ส.ชเวเข้าถึงเอกสารราชการในระดับที่ยอมรับไม่ได้.