หลายประเทศเชื่ออิหร่านยิงเครื่องบินยูเครนตก
ผู้นำออสเตรเลีย แคนาดาและสหราชอาณาจักร เชื่อว่าหลักฐานบ่งชี้ว่ามีขีปนาวุธจากอิหร่านยิงเครื่องบินของสายการบินยูเครนตกในสัปดาห์นี้ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 176 รายเสียชีวิต โดยนักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่าการที่นานาชาติกดดันอิหร่านจะทำให้เกิดวิกฤตทางการทูต
ผู้โดยสารส่วนใหญ่บนเที่ยวบิน 752 ของสายการบินยูเครนมาจากอิหร่านและแคนาดา โดยมีผู้โดยสารชาติอื่นคือสวีเดนและยูเครน
เครื่องบินตกเมื่อเช้าวันที่ 8 ม.ค.ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธไปที่ฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก ทำให้เกิดทฤษฏีว่าเครื่องบินของสายการบินยูเครนลำนี้อาจถูกขีปนาวุธลูกหลงของอิหร่านยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจ
รัฐบาลออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐฯระบุว่า เชื่อว่าทฤษฏีนี้มีแนวโน้มเป็นไปได้ จากข้อมูลล่าสุด
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาระบุในการแถลงข่าวว่า “ นี่อาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้เจตนา” โดยเขาขอให้รัฐบาลอิหร่านสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบินอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ขณะที่อิหร่านปฏิเสธว่าเครื่องบินไม่ได้ถูกขีปนาวุธยิงตก
“ หากการสันนิษฐานถูกต้อง จะเกิดวิกฤตทางการทูตสำหรับอิหร่านอย่างชัดเจนในระยะสั้น” นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group ระบุในผลวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.
อาลี อเบดซาเดห์ ประธานสำนักงานการบินพลเรือนอิหร่านระบุกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่่า อิหร่านต้องการดาวน์โหลดบันทึกจากกล่องดำด้วยตัวเอง และหากต้องการความช่วยเหลือในการถอดรหัสข้อความ ซึ่งอาจใช้เวลาในการรายงานนาน 1 – 2 เดือน อิหร่านจะขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย แคนาดา ฝรั่งเศส หรือยูเครน
ผู้โดยสารชาวแคนาดา 63 รายอยู่ในรายชื่อเหยื่อเครื่องบินตกในครั้งนี้ โดยเครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน 5 นาทีหลังเทคออฟจากกรุงเตหะรานเมื่อเช้าวันที่ 8 ม.ค. ทางการระบุ
นายกฯทรูโดของแคนาดากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า เขา “ ได้รับข่าวกรองจากหลายแหล่งข่าว ทั้งประเทศพันธมิตรของเราและสำนักข่าวกรองของเราเอง”
“ หลักฐานชี้ชัดว่า เครื่องบินถูกยิงตกโดยขีปนาวุธลูกหนึ่งจากอิหร่าน” นายกฯทรูโดเสริม โดยนายกฯ บอริส จอห์นสันแห่งสหราชอาณาจักร และนายกฯสก็อต มอร์ริสันของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาเหมือนกัน
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนระบุว่า ยังไม่มีการยืนยันทฤษฏีที่ว่าขีปนาวุธลูกหลงจากอิหร่านอาจทำให้เที่ยวบิน 752 ตก
โดยทางการอิหร่านกล่าวกับสื่อรอยเตอร์เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่า อาจใช้เวลา 1 – 2 ปีในการสอบสวนให้สมบูรณ์
“ อิหร่านจะเจอกับการกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ความร่วมมือกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ และเราคาดว่าในที่สุดอิหร่านจะยอมรับการสืบสวนของชาติตะวันตก” นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group ระบุ.