ซัมซุงตั้งหน่วยต้านโกง
โซล : เมื่อวันที่ 9 ม.ค. กลุ่มบริษัทซัมซุุง บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ (ซึ่งผู้นำของบริษัทพัวพันกับคดีฉาวที่มีการให้สินบนอดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเย) ได้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกให้มาเป็นคณะกรรมการในการกำกับดูแลการกระทำผิดทางอาญา จากข้อมูลของประธานคณะกรรมการ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้พิพากษาที่ตัดสินคดีสินบนของประธาน Jay Y Lee หรือ อีแจยอง ในเดือนส.ค.กล่าววิจารณ์บริษัทยักษ์ใหญ่ว่าขาดระบบตรวจสอบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โดยระบุว่า จำเป็นต้องมีการป้องกันไม่ให้บรรดาผู้บริหารและผู้นำบริษัทมีการกระทำผิด
“ ช่วงเวลาที่ซัมซุงเลือกที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่น่าประทับใจพอ และหากคณะกรรมการชุดนี้ล้มเหลวในการทำงาน ผมขอยุติบทบาทด้วยความอัปยศอย่างที่สุด” คิมจีฮยอง อดีตผู้พิพากษาศาลสูงซึ่งถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานคณะกรรมการในการดำเนินการและการกำกับดูแลกล่าวในการแถลงข่าว
เขากล่าวว่า ตอนแรกเขาปฏิเสธข้อเสนอของซัมซุง เพราะกังวลว่าจะจบลงด้วยความล้มเหลวในการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น และอาจถูกซัมซุงใช้เป็นประโยชน์กับการไต่สวนคดีในศาล
เขากล่าวว่า อีแจยอง รองประธานซึ่งเป็นผู้นำตัวจริงของบริษัท การันตีถึงความเป็นอิสระในการทำงานของคณะกรรมการในการประชุม โดยเสริมว่า จะจับตามองแนวโน้มที่จะมีการกระทำผิดในกลุ่มบริษัท รวมทั้งบริษัทเรือธงอย่างซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์
คณะกรรมการใหม่ ซึ่งจะเริ่มงานในเดือนก.พ. ดำเนินงานโดย 7 บุคคลที่มีความสามารถ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากวงการกฎหมายและภาคประชาสังคม
ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมาภิบาลกล่าววิจารณ์ประเด็นนี้ โดยระบุว่า เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษในศาล และชี้ให้เห็นถึงกรณีการทำผิดซ้ำๆ ที่ซัมซุง และบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆที่บริหารงานแบบครอบครัว แม้จะมีคำสัญญาว่าจะปรับปรุงด้านธรรมาภิบาลและความโปร่งใส
“ การปฏิบัติตามระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพสามารถทำได้ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พนักงานรายงานการละเมิดกฎข้อบังคับภายในโดยไม่ต้องกลัวการถูกแก้แค้น แต่ไม่ใช่กับกรณีของบริษัทเกาหลี” อีชางมิน ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมาภิบาลที่มหาวิทยาลัยฮันยางกล่าว
อีแจยอง วัย 51 ปี ถูกตั้งข้อหาว่าให้สินบนกับเพื่อนสนิทของอดีตประธานาธิบดีพัคเพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลและเพื่อประโยชน์อย่างต่อเนื่องในแผนการดำเนินงานของบริษัท
ในเดือนส.ค. ศาลฏีกายกคำร้องของศาลอุทธรณ์ที่ให้ระงับโทษจำคุกของอี ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะต้องรับโทษหนักขึ้นและอาจทำให้เขาต้องถูกจำคุกในเรือนจำอีก
ทั้งนี้ ผู้บริหารของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และซัมซุง ไบโอโลจิกส์ ก็ถูกตัดสินให้ต้องโทษจำคุกจากข้อหาทำลายกิจกรรมของสหภาพ และทุจริตบัญชี.