3 ชาติหนุนเจรจาเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ
เฉิงตู , จีน (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ประธานาธิบดีมุนแจอิน แห่งเกาหลีใต้ระบุว่า จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ตกลงที่จะประสานความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ หลังมีการประชุมซัมมิตระหว่าง 3 ประเทศในจีน
เกาหลีเหนือมีกำหนดเส้นตายถึงสิ้นปีสำหรับสหรัฐฯในการเปลี่ยนนโยบายการต่อต้าน หลังจากจนมุมกับความพยายามที่จะยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และสร้างสันติภาพ
ประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯพบกันถึง 3 ครั้งตั้งแต่เดือนมิ.ย.2561 แต่ไม่มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนจากการพูดคุย ขณะที่เกาหลีเหนือเรียกร้องให้นานาชาติยกเลิกการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือก่อนเป็นอย่างแรก
ในระหว่างการประชุมที่เมืองเฉิงตู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่มีขึ้นหลังการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนและนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีมุน ระบุว่า ทั้งสามประเทศตกลงกันในประเด็นให้มีการสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด
“ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น ทั้ง 3 ประเทศตกลงที่จะมีการสื่อสารและความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และคงสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” ประธานาธิบดีมุนระบุในการแถลงข่าวร่วมกัน
“ เราแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับคาบสมุทรเกาหลีในประเด็นผลประโยชน์ของทั้งสามประเทศ และตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการปลดอาวุธนิวเคลียร์และการสร้างสันติภาพผ่านการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ” เขาเสริม
นายกฯ หลี่ของจีนระบุว่า ทั้งสามผู้นำยืนยันความจำเป็นต้องหาทางแก้ไขในประเด็นเกาหลีเหนือผ่านการเจรจา และทั้งสามประเทศจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
จีนเป็นผู้สนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการค้าที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ แม้จีนจะไม่พอใจที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์หลายครั้ง
Stephen Biegun ทูตพิเศษสหรัฐฯประจำเกาหลีเหนือพบกับสองนักการทูตอาวุโสของจีนในการเยือนกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากมีการประชุมแบบเดียวกันในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เนื่องจากบรรดานักการทูตพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าครั้งใหม่
เมื่อสัปดาห์ก่อน จีนกับรัสเซียเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยกเลิกการคว่ำบาตร เป็นความพยายามที่จะปลดล็อกหาทางออกและการสนับสนุน
แต่ยังไม่ชัดเจนว่า จีนสามารถโน้มน้าวให้เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแตกแถวกับสหรัฐฯ ซึ่งแสดงอาการคัดค้านอย่างชัดเจน และสามารถวีโต้การแก้ไขหาทางออกทั้งหมด.