ลาซาดาร่วมหุ้นยูนิลีเวอร์บุกอาเซียน
ยักษ์ใหญ่อี – คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างลาซาดาร่วมมือกับบริษัทยูนิลีเวอร์เพื่อหวังส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินค้าบริโภค โดยตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายได้ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2563
โดยในส่วนหนึ่งของดีล ทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งซัพพลายเชน, การเติมสินค้า, ข้อมูล, การตลาด, การค้าในโซเชียลมีเดีย และการพัฒนาความสามารถ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าในภูมิภาคนี้
“ เป้าหมายที่วางไว้คือ หาวิธีการที่ดีขึ้นเพื่อเข้าถึงลูกค้าชนชั้นกลางทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสามารถสื่อสารได้โดยตรงกับพวกเขา ” แม็กซิมิเลียน บิทเนอร์ ซีอีโอกลุ่มลาซาดากล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเกี่ยวกับการตกลงเป็นหุ้นส่วนธุรกิจครั้งนี้
ประเภทสินค้าบริโภคที่เติบโตเร็ว (FMCG) ของลาซาดามีตัวเลขการเติบโตสูงขึ้นถึง 181% ในปี 2559
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ซึ่งทำให้เป็นประเภทสินค้าที่เติบโตแข็งแกร่งที่สุด โดยลาซาดาซึ่งถูกอาลีบาบาซื้อกิจการไปสามารถขายสินค้าได้ถึง 39 ล้านชิ้นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าในครัวเรือนและสินค้าแฟชั่น
“ นี่จะทำให้เราทำยอดขายออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 และ 2559 ” ปิเอร์-ลุยจิ ซิจิสมอนดิ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี โดยเสริมว่า ยอดขายออนไลน์ของยูนิลีเวอร์สูงขึ้นในเดือนนี้มากกว่าทั้งปี 2559 โดยเขาเน้นว่าการตลาดออนไลน์คือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญเป็นอันดับแรก
“ สินค้าบริโภคมีแนวโน้มจะขายออนไลน์มากขึ้น เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นมาก ”
โดยข้อมูลที่ลาซาดารวบรวมไว้จะช่วยให้ยูนิลีเวอร์เข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ การเป็นหุ้นส่วนกันจะทำให้ยูนิลีเวอร์ได้ทดสอบสินค้าใหม่ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะวางจำหน่าย ขณะที่ยังมีข้อเสนอสินค้าสุดพิเศษให้แก่นักช้อปของลาซาดา
อ้างอิงจากผลการวิจัยตลาดของ Frost & Sullivan มูลค่าการขายออนไลน์คิดเป็นเพียง 2.5% ของยอดค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเปรียบเทียบกับ 12% ของจีน
นี่จะเป็นการสร้างความท้าทายและโอกาสในหลายประเทศทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย และเวียดนาม โลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นหนึ่งในเรื่องท้าทายที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคน้อยกว่า 7% ที่มีบัตรเครดิตในภูมิภาคนี้ ยกเว้นสิงคโปร์และมาเลเซีย
ทั้งนี้ ดีลธุรกิจที่ยูนิลีเวอร์ทำร่วมกับลาซาดามีความคล้ายคลึงกับการทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนกับอาลีบาบาในจีนเมื่อปี 2558 เพื่อเข้าถึงนักช้อปชาวจีนให้มากขึ้น.