นายกฯ เยอรมนีขึ้นแท่นสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีครองตำแหน่งสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเป็นปีที่ 9 จากการจัดอันดับ 100 สตรีทรงอิทธิพลสูงสุดในโลก
โดยการจัดอันดับสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของนิตยสารฟอร์บสประจำปี 2562 มีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เป็นการกลับมาครองตำแหน่งสูงสุดอีกครั้งของผู้นำเยอรมนี ซึ่งครองอันดับมากถึง 14 ปีจาก 16 ปีในประวัติศาสตร์ของ
ผู้ที่อยู่ในอันดับรองลงมาจากนายกฯแมร์เคิล คือบรรดาสตรีที่โดดเด่นในแวดวงการเมืองของโลก
โดยคริสตีน ลาการ์ดขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ในปีนี้ หลังจากเธอขึ้นดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป ขณะที่แนนซี เพโลสิ โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อยู่อันดับ 3 และเออร์ซูลา วอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ครองอันดับ 4 และซีอีโอของ บ.ยานยนต์ยักษ์ใหญ่ เจเนรัลมอเตอร์ คือ แมรี บาร์รา อยู่อันดับ 5
ในปีนี้ 100 สตรีทรงอิทธิพลของโลกมาจากสตรีที่โดดเด่นใน 6 ประเภท คือ ธุรกิจ ( 31 คน) เทคโนโลยี (17 คน) การเงิน (12 คน) สื่อและบันเทิง ( 14 คน) การเมืองและนโยบาย ( 22 คน ) และความใจบุญสุนทาน ( 4 คน)
โดยเมื่อรวมกันทั้ง 100 คน พวกเธอควบคุมหรือมีอิทธิพลกับรายได้มากกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และพนักงานข้ามชาติเกือบ 6.5 ล้านคน
ในการจัดอันดับ ฟอร์บสพิจารณาจากมาตรวัด 4 หัวข้อคือ เงิน สื่อ ผลกระทบ และเขตอิทธิพลและให้คำนิยาม power จาก hard power ( สกุลเงินและรัฐธรรมนูญ ) dynamic power ( ผู้ชม, ชุมชน และอิทธิพลเชิงสร้างสรรค์) และ soft power ( สิ่งที่ผู้นำทำด้วยอิทธิพลของพวกเธอ )
เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม และบุคคลแห่งปี 2562 ของนิตยสารไทม์ ซึ่งติดในอันดับที่ 100 กลายเป็นฟอร์บสสตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของการจัดอันดับ ด้วยวัยเพียง 16 ปี ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งมีพระชนมายุมากที่สุดอยู่ในอันดับ 40
โดยคนอื่นๆที่อยู่ในรายชื่อคือ คริสตาลินา จอร์จิวา กรรมการผู้จัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในอันดับ 15 , เจสสิกา ตัน co -CEO , CIO และ COO ของผิงอันกรุ๊ปอยู่อันดับ 22 เนอร์มาลา สิธารามัน รมว.คลังของอินเดียอยู่อันดับ 34 และ ริฮานนา นักร้อง/นักแต่งเพลง/ผู้ประกอบการ อยู่อันดับ 61
ทั้งนี้ จากทั้ง 100 อันดับ เป็นสตรีจากอเมริกาเหนือถึง 50 คน รองลงมาคือเอเชียแปซิฟิก 21 คน ยุโรป 23 คน ตะวันออกกลาง 3 คน ลาตินอเมริกา 2 คน และแอฟริกา 1 คน